ซีรี่ย์เกาหลี หากเข้าไปดูรายการยอดนิยมสิบอันดับใน Netflix จะเห็นได้ชัดเลยว่าซีรีส์จากเกาหลีติดหลายอันดับมาโดยตลอด และเมื่อไม่นานมานี้เคยมีโพลมหาชน Thailand People’s Chart เจาะลึกเรื่องพฤติกรรมคนไทยกับซีรีส์ต่างประเทศว่า ชาวไทยถูกใจมองซีรีส์ประเทศใดสูงที่สุด ปรากฏว่าชาวไทยจำนวนร้อยละ 51 ถูกใจมองซีรีส์ประเทศเกาหลีเยอะที่สุด โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิง ถ้าหากมีการตรวจสอบในเดี๋ยวนี้ คนเขียนคาดว่าความนิยมอาจจะมากขึ้นอีกมากมาย ทุกวันนี้ซีรีส์เกาหลีกลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่นำรายได้เข้าประเทศมหาศาล ไม่แพ้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีแบรนด์ดังๆ อาทิ ซัมซุง ฮุนได ฯลฯ เพราะมีผู้นิยมดูไปทั่วโลก ตั้งแต่เอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ไปจนถึงทวีปแอฟริกา
[read more]
ซีรีส์เกาหลีได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐเอง รวมถึงสตรีมมิงแทบทุกค่ายที่ต่างมาลงทุนในการผลิตคอนเทนต์ออริจินัล ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเกิดการผสมผสานวัฒนธรรมเกาหลีเข้าไว้ในคอนเทนต์อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศิลปิน K-Pop อาหารการกิน สถานที่ การใช้ชีวิตของเหล่าคนดัง ขนบทางสังคมบางอย่างที่ถ่ายทอดอยู่ในเรื่องราว ที่เห็นตัวเลขชัดๆ ก็คือการที่ เท็ด ซาแรนดอส Co-CEO ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ของ Netflix ได้ให้สัมภาษณ์ช่วงกลางปีนี้ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ สมาชิกของเรา 60 เปอร์เซ็นต์รับชมคอนเทนต์เกาหลี ตัวเลขมากขึ้นถึง 6 เท่า หากนับจากตัวเลขเมื่อ 4 ปีก่อน สำหรับคอนเทนต์โรแมนติกก็ต้องบอกว่าผู้ชมถึง 90 เปอร์เซ็นต์เป็นสมาชิก Netflix ที่อยู่นอกประเทศเกาหลีด้วยนะ นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยว่า Netflix จะทุ่มงบลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับคอนเทนต์เกาหลีใน 4 ปีต่อจากนี้ ทั้งรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และซีรีส์ รวมถึงการลงทุนในการผลิตบุคลากรรุ่นใหม่เข้ามาร่วมสร้างสรรค์เรื่องราวเพื่อผู้ชมทั่วโลก
ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่ชัดเจนในปีนี้คือการที่ซีรีส์เกาหลีถึง 4 เรื่อง (จากทั้งหมด 7 เรื่อง) นั่นก็คือ Bargain, The Glory, Mask Girl และ Moving ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเวทีระดับโลก Critics Choice Awards ครั้งที่ 29 ซึ่งจะจัดในเดือนมกราคม 2024 ที่ลอสแอนเจลิส โดยซีรีส์เข้าชิงในสาขา Best Foreign Language Series การได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า นี่แหละคือ Soft Power ที่ไม่อาจปฏิเสธ
ปัจจุบันจะเห็นว่าซีรีส์เกาหลีตามแพลตฟอร์ม เช่น Netflix มีเนื้อหาที่สั้นกว่าเดิมเกือบเท่าตัว จากเดิมที่ละครเรื่องหนึ่งมี 20 หรือ 16 ตอน ช่วงหลังจะเห็นว่าหลายเรื่องที่ปล่อยมาใหม่ลดลงเหลือ 12 ตอน 10 ตอน 8 ตอน ตามลำดับ อีกทั้งเป็นคอนเทนต์ที่ปล่อยพร้อมกันหมดในคราวเดียว ไม่ต้องรอสัปดาห์ต่อสัปดาห์เช่นเดิม ด้วยเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมคอนเทนต์ของเกาหลีที่มีมากขึ้น ทำให้ซีรีส์เพิ่มจำนวนต่อเนื่อง ทั้งเรื่องจากผู้ผลิตที่เป็นช่องโทรทัศน์ และจากแพลตฟอร์ม OTT (บริการวิดีโอออนไลน์) ที่ลงทุนเข้ามาสร้างสตูดิโอการผลิตโดยตรง ทำให้มีคอนเทนต์ออกมาไม่ขาดสาย ตอบสนองความต้องการด้านบันเทิงของผู้ชมได้ไม่สะดุด เเต่การที่มีคอนเทนต์ออกมาเกลื่อนตลาด ขณะที่ช่องทางการถ่ายทอดทั้ง OTT หรือช่องสถานีโทรทัศน์ กลับมีเวลาให้ลงคอนเทนต์ไม่พอ ไม่ทันต่อการถ่ายทอดซีรีส์บางเรื่องที่มีข่าวปิดกล้องไปนานแล้ว กลับยังไม่มีวี่แววได้ฉายเร็ววัน เนื่องจากผลงานก่อนหน้าที่ค้างอยู่ในสต๊อก ยังต่อคิวกันยาวเหยียดนับร้อยเรื่อง ซึ่งการเลือกใช้ทอปสตาร์ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ทั้งหมดว่าจะประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเรื่อง “The King Eternal Monarch” ที่ได้นักแสดงดัง “ลีมินโฮ” มารับบทนำ ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ใช้งบสร้างไปมากกว่า 780 ล้านบาท หรือเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน อย่าง “Alice” นำแสดงโดยจูวอน ก็จบลงไม่ต่างกัน เพราะเนื้อหาที่ไม่ร้อยเรียง ทำอารมณ์การรับชมสะดุด ส่งผลให้เรตติ้งต่ำ ยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าการจ้างคนดังระดับทอปสตาร์ ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะทำกำไร นักลงทุนจึงยิ่งต้องเข้มงวดกับการพิจารณาลงทุนมากขึ้นอีก
ตามข้อมูลของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเกาหลี ปีที่ผ่านมาเกาหลีใต้ส่งออกคอนเทนต์รวมวิดีโอเกม เพลง และการออกอากาศ ที่สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากกว่าการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (8.67 พันล้านดอลลาร์) แบตเตอรี่สำรอง (8.67 พันล้านดอลลาร์) ยานพาหนะไฟฟ้า (6.99 พันล้านดอลลาร์) และแผงแสดงผล (3.6 พันล้านดอลลาร์) เป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้แรงหนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของวัฒนธรรมป๊อปเกาหลีทั่วโลก ในปี 2022 เน็ตฟลิกซ์รายงานผลกำไรจากการดำเนินงาน 14.28 พันล้านวอน เฉพาะในเกาหลีใต้ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผลขาดทุนจากการดำเนินงานของแพลตฟอร์มท้องถิ่นอย่าง Tving ที่ขาดทุน 119 พันล้านวอน อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ไม่มีกฎหมายที่กำหนดให้บริการสตรีมมิ่งจากต่างประเทศ ผลิตหรือลงทุนในคอนเทนต์ท้องถิ่น ต่างจากสหภาพยุโรป หลายองค์กรของเกาหลีจึงเป็นกังวลต่อปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา อีกทั้งเสนอให้รัฐบาลสร้างระบบที่จะมั่นใจได้ว่าผลกำไรส่วนเกินสามารถคืนให้กับผู้สร้างชาวเกาหลีใต้ได้โดยเเท้
ความทะเยอทะยานที่มาพร้อมกับความบ้าคลั่งในการทำงาน
วงการการทำงานในเกาหลีใต้กดดันสูง แข่งขันสูง เครียดกันหัวแทบหลุด และไม่ใช่เฉพาะงานอุตสาหกรรมบันเทิง แต่หมายรวมถึงลักษณะนิสัยที่สั่งสมกันมารุ่นสู่รุ่น จนหลายๆ คนน่าจะคุ้นกับวลีที่ว่า ‘นรกโชซอน’ เจนใหม่ของเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งที่อยากจะหนีความกดดันไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ แต่ด้วยแรงดึงดูดของ Soft Power วัฒนธรรม K-Pop ได้กลายเป็นแม่เหล็กดึงหนุ่มสาวกลับไปโซลได้อีกครั้ง
เชื่อว่าเกาหลีคือที่หนึ่งของโลกนี้ได้
ผู้เขียนมีโอกาสได้สัมภาษณ์และพูดคุยกับทีมงาน นักแสดง ทีมสร้างคอนเทนต์จากเกาหลีอยู่หลายครั้ง พบว่าอย่างหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันก็คือ ‘ความเชื่อ’ ที่เชื่อว่าเกาหลีเป็นที่หนึ่งของโลกนี้ได้ ถ้าฮอลลีวูดมีงาน CG ระดับไหน เขาก็จะพยายามยกระดับ พัฒนาตัวเองไปให้ถึงในมาตรฐานเดียวกัน
นักเขียนบท ผู้กำกับ นักแสดง เสาหลักอันแข็งแกร่ง
อุตสาหกรรมซีรีส์เกาหลียืนหยัดอยู่บนเสาหลักสำคัญ นักเขียน ผู้กำกับ และนักแสดง ซึ่งเป็นการทำงานที่ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับฝั่งนักเขียนและผู้กำกับมากกว่านักแสดงที่จะมารับบทเสียอีก มีข่าวหลายครั้งที่นักแสดงดังๆ ยังต้องขอไปพบนักเขียนเพื่อแคสต์บทที่ต้องการ หรือการทำงานของนักเขียนบทที่ทำงานเป็นทีม และในมือเขียนระดับท็อปๆ ค่าเขียนบทอาจจะสูงกว่าค่าตัวนักแสดงนำของเรื่องด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นการที่ค่ายทีวีเลือกนักแสดงมาให้ หรือเจาะจงนักแสดงในสังกัดมาให้ จึงไม่ค่อยเกิดขึ้นให้กลายเป็นปัญหาลูกโซ่ตามมา
นักแสดงที่ฝีมือต้องมี
ฝ่ายนักแสดงเองก็อยู่ในนิยามคำว่า ‘นักแสดง’ ไม่ใช่ดาราหน้ากล้อง ผู้เขียนที่ได้สัมภาษณ์นักแสดงเกาหลีมาไม่น้อยเช่นเดียวกัน พบว่าชื่อเสียงที่พวกเขาได้รับแลกมากับความพยายามและความตั้งใจในการทำงานขั้นสุด เราได้เห็นนักแสดงที่ทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพิ่มน้ำหนัก ลดน้ำหนัก ปรับวิธีการเดิน การพูด ให้ตรงกับคาแรกเตอร์ รวมถึงการท่องบทและฝึกซ้อมแอ็กชันต่างๆ ชนิดที่เหลือเชื่อ เช่น ฮันโซฮี ที่ฟิตร่างกายจนแกร่ง หรือ ฮันฮโยจู ที่เตรียมร่างกายสำหรับฉากแอ็กชัน จนในชีวิตจริงลงแข่งไตรกีฬาสำเร็จด้วยเช่นกัน
วัตถุประสงค์ของซีรีส์ที่ไม่ได้แค่มอบความบันเทิง
คอนเทนต์เกาหลีเป็นเจ้าแรกในการมีชื่อเรียกแนวทางซีรีส์ของตัวเอง เช่น ซีรีส์แนวฮีลใจ โดยเฉพาะในปีนี้ มีซีรีส์หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจที่ดีมากๆ อย่าง Daily Dose of Sunshine
นอกเหนือจากความบันเทิง ซีรีส์เกาหลียังมีวัตถุประสงค์ที่สองในการเป็นข้อมูลความรู้สำหรับคนดูหัวข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เกาะเชจูทางการท่องเที่ยว Welcome to Samdalri, ซีรีส์สอนวิชากฎหมายชาวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องหย่าร้าง Divorce Attorney Shin, ซีรีส์ทวงคืนความยุติธรรมให้เหยื่อ Taxi Driver 2, ซีรีส์ตีแผ่วงการเลือกตั้ง Queenmaker และซีรีส์สอนวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน The First Responders 2
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ความแรงของซีรีส์เกาหลีที่ไม่หยุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องที่มีการวางแผนและใช้เวลาบ่มเพาะไม่ใช่น้อย อย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับคือคอนเทนต์เกาหลีได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เป็นการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน ใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล เคี่ยวกรำบุคลากรของตนอย่างเข้มข้น ทั้งเรื่องความละเอียด ฝีมือ เทคโนโลยี โปรดักชัน และเงินลงทุน ฐานการผลิตคอนเทนต์ที่เกาหลีเติบโตขึ้นทุกที และมีแนวโน้มไปไกลในทำนองความหวังของชาติสุดๆ เกิดจากการเดินทาง ฝ่าฟัน เรียนรู้ และปรับตัวตลอดมา การที่พวกเขาขึ้นไปยืนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลก จึงเป็นสิ่งที่เราควรคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาส่วนงานของตัวเอง การนำ Soft Power ไปสู่ความเป็นสากล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ในชั่วข้ามคืน แต่เป็นการวางแผนระยะยาว เพื่อให้เมื่อไปยืนบนเวทีโลกแล้ว จะได้รับดอกไม้มากกว่าก้อนอิฐ
Reply 1997 (2012) ย้อนรอยรัก 1997
ละครเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1990 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่นักเรียนหญิงมัธยมปลายชีวอน ซึ่งเป็นไอดอลบอยแบนด์ HOT และเพื่อนมัธยมปลาย 5 คนของเธอในปูซาน ไทม์ไลน์ย้อนกลับไปมาระหว่างอดีตของพวกเขาในฐานะนักเรียนมัธยมปลายวัย 18 ปีในปี 1997 และปัจจุบันของพวกเขาในวัย 33 ปีในงานเลี้ยงอาหารค่ำรวมตัวที่โรงเรียนมัธยมในปี 2012 ซึ่งคู่รักคู่หนึ่งจะประกาศว่าพวกเขากำลังจะแต่งงานกัน
Reply 1994 (2013) ย้อนวันรัก 1994
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1994 นักศึกษามหาวิทยาลัยหกคนจากพื้นที่ต่างจังหวัดอาศัยอยู่ด้วยกันที่หอพักในซินชอน กรุงโซล ซึ่งดำเนินการโดยคู่รักกับลูกสาวชื่อนาจุง ไทม์ไลน์ย้อนกลับไปกลับมาระหว่างอดีตในปี 1994 และปัจจุบันในปี 2013 ทำให้ผู้ชมเดาว่าใครจะกลายเป็นสามีของนาจองในบรรดาตัวละครชาย
Reply 1988 (2015) ปีไหนก็รักเธอ
เพราะความทรงจำในปี 1988 ล้วนมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยิ่งใหญ่สำหรับชาวเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกรุงโซล รวมถึงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของชาวเกาหลีที่ได้เดินทางออกนอกของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังมีความเจริญก้าวหน้าทั้งในเรื่องของการศึกษา และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการเพลง K-Pop ทั้งหลาย ฉะนั้นซีรี่ย์เรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นของเกาหลี ผ่านตัวละครในเรื่องที่มีทั้งสุข เศร้า สมหวัง ไปด้วยกัน
Lovely Runner (2024) ข้ามเวลามาเซฟเมน
ในชีวิตแสนหมดอาลัยตายอยาก ท็อปสตาร์อย่างซอนแจคือความหวังเดียวสำหรับอิมซล ถึงอย่างนั้น วันหนึ่งเธอก็ได้ยินข่าวสะเทือนใจว่าซอนแจเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า โลกของเธอพลิกกลับตาลปัตรแล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาทั้งน้ำตา แต่กลับพบว่าตัวเองอยู่ในอดีตเมื่อ 13 ปีที่แล้วในตอนที่ซอนแจยังมีชีวิตอยู่ ซลคว้าโอกาสนี้ไว้และตั้งใจว่าจะช่วยชีวิตซอนแจอย่างสุดฝีมือ ขณะที่ในอดีตที่ว่านี้ ซอนแจเป็นนักเรียนที่ทุ่มเทให้กับการว่ายน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ซลที่ไม่รู้จักเขามาก่อนจนกระทั่งเมื่อวานนี้รู้ชื่อของเขาได้ยังไงกันนะ
Brewing Love (2024) กลั่นรักอุ่นหัวใจ
ในฐานะอดีตทหารพิเศษ แชยงจูเป็นหัวหน้าทีมมาร์เก็ตติ้งของสุราจีซังและเป็นที่รู้จักในฐานะเซลล์ตัวตึงในวงการสุรา เธอครองตลาดด้วยความไฟแรงและทุ่มเทให้กับบริษัทด้วยพลังกายราวกับคนเหล็กและพลังใจที่สุดแสนจะแข็งแกร่ง แต่แล้วก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในอุตสาหกรรมสุรา สาขาที่ยงจูทำงานมากว่าหกปีก็ได้รับผลกระทบ ระหว่างที่พยายามจะปกป้องสาขาของตัวเอง เธอก็ได้พบกับมินจู ชายหนุ่มที่เข้าใจความรู้สึกของเธอที่แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ยุนมินจูคือบรูว์มาสเตอร์ เขาเป็นเจ้าของและบริหารโรงเบียร์ยูอิลฮันกับผับยูอิลฮัน มินจูมีความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกของคนอื่น เขาติดนิสัยชอบปิดกั้นทั้งสิ่งต่างๆ และผู้คน เพื่อหลีกเลี่ยงการรู้สึกอะไรมากเกินไป มินจูเป็นคนที่อ่อนไหวง่ายมาก ๆ ด้วย ระหว่างที่ใช้ชีวิตโดยสนใจแค่ตัวเองกับศิลปะของการหมัก เขาก็ได้พบกับยงจู คนที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตที่แสบเงียบเหงาของเขา ทั้งสองคนจะรักกันได้อย่างไรภายใต้ความกดดันของอุตสาหกรรมสุรา
Descendants of the Sun (2016) ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ
ยู ชี-จิน (ซง จุง-กี) เป็นร้อยเอกแห่งกำลังพิเศษ เขาจับโจรปล้นรถจักรยานยนต์กับจ่าสิบเอก ซอ แด-ย็อง (ชิน กู) โจรนั้นบาดเจ็บระหว่างการจับกุมและถูกส่งไปโรงพยาบาล แดยองรู้ว่าโทรศัพท์มือถือของเขาถูกโจรขโมยแล้วตามไปเอาโทรศัพท์มือถือของเขาที่โรงพยาบาล ในห้องฉุกเฉิน ชี-จินพบกับแพทย์หญิงคัง โม-ย็อน (ซง ฮเย-กโย) ครั้งแรก เขาตกหลุมรักเธอในทันที โม-ย็อนสันนิษฐานผิดว่าชี-จินมีส่วนในแก๊งอาชญากรของโจรด้วย เขาพิสูจน์แก่เธอว่าเขาเป็นทหารด้วยความช่วยเหลือของแพทย์ทหาร ยุน มย็อง-จู (คิม จี-ว็อน) ชี-จินกับโม-ย็อนเริ่มคบหากัน แต่เนื่องจากอาชีพของพวกเขา ความสัมพันธ์จึงไม่ราบรื่น ชี-จินรับคำสั่งให้นำทหารของเขาไปภารกิจรักษาสันติภาพในประเทศสมมุตินามว่าอูรุก ขณะเดียวกัน โม-ย็อนหัวเสียที่เธอไม่ได้เป็นศาสตราจารย์เนื่องจากภูมิหลังมีเส้นของผู้ร่วมงาน เมื่อชี-จินและโม-ย็อนพบกันอีก ทั้งสองคุยเกี่ยวกับมุมมองชีวิตของพวกตนและตระหนักว่าทั้งสองต่างกันเพียงไร ชี-จินเป็นทหารฆ่าคนเพื่อปกป้องชีวิต และโม-ย็อนเป็นแพทย์ พยายามช่วยเหลือทุกชีวิต ทั้งสองกล่าวลากัน แปดเดือนต่อมา โม-ย็อนปฏิเสธการจีบของประธานโรงพยาบาล ฮัน ซ็อก-ว็อน (แท อิน-โฮ) และผลทำให้เธอถูกมอบหมายให้นำทีมแพทย์ในอูรุก ที่นั่น ชี-จินและโม-ย็อนพบกันอีกครั้ง
จองกูวอน ปีศาจผู้แข็งแกร่งและเย็นชา เขาได้สูญเสียความสามารถของเขาในชั่วข้ามคืน เขาจึงต้องใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป จนกระทั่งเขาได้พบกับ โดโดฮี CEO สาวสวยที่ประสบความสำเร็จ เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและกล้าหาญ ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากความแตกต่างของสถานะและจากเหล่าปีศาจที่พยายามจะเอาชีวิตจองกูวอน
Dear Hyeri (2024) ฮเยรี รักนี้มีไว้เพื่อเธอ
O Eun Ho เป็นผู้ประกาศข่าวที่ไม่มีใครรู้จักซึ่งมีประสบการณ์ 14 ปี เธอพยายามดิ้นรนเพื่อให้ชื่อของเธอได้รับการยอมรับจากสาธารณชน เธอยังมีบุคลิกอีกบุคลิกหนึ่งคือ Joo Hye Ri เนื่องจากบาดแผลลึกๆ ในใจของเธอ ตัวตนอีกด้านของเธอคือ Joo Hye Ri เป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆ และทำงานเป็นพนักงานดูแลที่จอดรถ Jung Hyeon O คือแฟนเก่าของ Joo Eun Ho พวกเขาคบหากันมาเป็นเวลานานแต่ก็เลิกกัน เขาได้กลายเป็นผู้ประกาศข่าวชื่อดังทันทีที่เข้าร่วมสถานีวิทยุและเป็นผู้ประกาศข่าวที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด แต่ Jung Hyeon O ยังมีบาดแผลที่ซ่อนอยู่ในใจที่เขาไม่เคยแสดงให้ใครเห็น ไม่ว่าอย่างไร Joo Eun Ho และ Jung Hyeon O ก็กลับมาพบกันอีกครั้งและช่วยรักษาบาดแผลของกันและกัน
อดีตโปรดิวเซอร์คังซูฮยอนและยูจินอู เด็กฝึกหัดที่ถูกทิ้งร่วมมือกันไล่ตามความฝันท่ามกลางความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ
Eccentric Chef Moon (2020) เชฟเหวินจอมประหลาด
ยู ยู จิน เป็นดีไซเนอร์แฟชั่นชื่อดังระดับโลกที่อุทิศชีวิตให้กับวงการแฟชั่นชั้นสูง แต่แล้ววันหนึ่ง เธอถูกพบในหมู่บ้านห่างไกลในชนบทของเกาหลีใต้พร้อมกับอาการความจำเสื่อมอย่างหนัก จำไม่ได้ว่าเธอเป็นใครหรือมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ชาวบ้านจึงส่งเธอไปอยู่ในบ้านที่มีอดีตเชฟชื่อดัง มุน ซึง โม อาศัยอยู่ เขาเป็นชายที่สาบานว่าจะหันหลังให้กับอาชีพการทำอาหารของเขาหลังจากอุบัติเหตุอันน่าสลดใจที่ทำให้เขาต้องแสวงหาความสงบ ในตอนแรก อดีตเชฟรู้สึกไม่พอใจแขกคนใหม่ในบ้านของเขา แต่เมื่อเขาพบว่ายู ยู จินมีความปรารถนาที่จะกินอาหารอย่างไม่รู้จักจบสิ้น เขาก็เริ่มค้นพบความหลงใหลในการทำอาหาร ชีวิต…และบางทีก็ความรัก!
Weak Hero Class 1 (2022) วัยมันส์พันธุ์ฮีโร่
เรื่องราวของ ยอนชีอึน (พัคจีฮุน) นักเรียนหัวกะทิ ผลการเรียนดีเด่นอยู่ในระดับท็อป ด้วยความที่เป็นคนเงียบ ๆ ภายนอกเขาจึงดูอ่อนแอ ทำให้ตกเป็นเหยื่อการบูลลี่ของพวกเด็กอันธพาล แต่เขากลับใช้ไหวพริบและความฉลาดในการเอาตัวรอด จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับ อันซูโฮ (ชเวฮยอนอุค) เพื่อนร่วมชั้นอดีตนักกีฬาต่อสู้เอ็มเอ็มเอ หัวทึบ ไม่สนใจเรียน และโอบอมซอก (ฮงคยอง) นักเรียนย้ายมาใหม่ ดีกรีลูก ส.ส. ที่ก็ตกเป็นเป้าของการกลั่นแกล้ง ทั้งสามตัดสินใจร่วมมือกันต่อสู้กับพวกอันธพาล และยืนหยัดเพื่อปกป้องตนเองและคนอื่น ๆ
เรื่องราวการต่อสู้ของผู้พิพากษากับหัวหน้าแก๊งมาเฟียในฐานะพ่อ ที่ครั้งหนึ่งอุบัติเหตุชนแล้วหนีทำให้ลูกของแก๊งมาเฟียต้องตาย โดยที่เหตุการณ์นี้ลูกของผู้พิพากษาที่หลายคนเคารพมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ด้วยเหตุนี้การต่อสู้เพื่อลูกของพ่อ 2 คนที่แตกต่างจึงเกิดขึ้น
Who Are You School (2015) อลหม่านรักสลับตัว
Who Are You – School 2015 เป็นภาคที่ 6 ของซีรีส์ดราม่าวัยรุ่นยอดนิยมเรื่อง School ซีรีส์นี้แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้และความท้าทายของนักเรียนมัธยมปลายที่พวกเขาต้องเผชิญ Who Are You – School 2015 นำเสนอเรื่องราวของฝาแฝดอึนบีและอึนบยอลที่แยกทางกันตั้งแต่ยังเด็ก และตอนนี้ใช้ชีวิตที่แตกต่างกันในเมืองต่างๆ ชีวิตของสาวๆ บรรจบกันเมื่ออึนบยอลหนีจากการทัศนศึกษาเพื่อตามหาน้องสาวที่หายไปของเธอ อึนบี ติดตามชมความจริงของเรื่องราวของอึนบีและอึนบยอล
School 2017 (2017) รวมตัวป่วนก๊วนมัธยม
เรื่องที่เจ็ดของจักรวาลซีรีส์ “School” ที่จะพาเราไปพบชีวิตของ ราอึนโฮ (รับบทโดย คิมเซจอง) เด็กสาวโรงเรียนมัธยมปลายกึมโด โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงมาก นักเรียนที่ได้คะแนนดีจะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ได้ทานข้าวก่อนนักเรียนที่ทำคะแนนต่ำ แต่ราอึนโฮเป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาที่มีความฝันอยากเป็นนักวาดเว็บตูน ในขณะเดียวกันโรงเรียนก็เกิดความวุ่นวาย มีชายชุดดำปริศนาเข้ามาป่วนภายในโรงเรียน อึนโฮที่เข้าไปเห็นเหตุการณ์ชายชุดดำกำลังเผาหนังสือในห้องพักครู จึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนทำ มีเพียง ฮยอนแทอุน (รับบทโดย คิมจองฮยอน) ลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนจอมเกเรที่เชื่อในคำพูดของเธอ ในระหว่างที่ราอึนกำลังจะเขียนใบลาออก ชายชุดดำก็ได้ลงมือสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง ทำให้เธอตัดสินใจที่จะตามไปจับชายชุดดำ แม้ว่างานนี้อึนโฮจะพลาดไป แต่เธอก็ได้เบาะแสสำคัญที่เชื่อมโยงไปถึงเด็กหนุ่มสองคน คือ ฮยอนแทอุน และ ประธานนักเรียนซงแดฮวี (รับบทโดย จางดงยุน)
ซีรี่ย์เกาหลี 2025
Study Group (2025) กลุ่มติวเดือด เลือดนักสู้
ใครที่รู้จักกามินก็คงคิดว่าเขาคือนักเรียนตัวอย่างที่มักจะได้คะแนนสูงสุดในโรงเรียน เขาใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบแบบแผน ออกกำลังกายทุกวัน และขยันเรียนหนังสือ แม้ว่าเขาจะทุ่มเทกับการเรียนและรักการเรียนมาก ๆ แต่เขาก็ไม่เคยได้คะแนนดีเลย อันที่จริงแล้วเขามักจะตกเป็นที่โหล่ด้วยซ้ำ ซึ่งมันแปลกมาก กามินเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายเทคนิคยูซองและอยากจะเริ่มต้นใหม่ดี ๆ เขาตัดสินใจตั้งกลุ่มติวหนังสือเพื่อหาวิธีเรียนที่ถูกต้องให้ได้เกรดดี ๆ แต่โรงเรียนยูซองได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่มีแต่นักเลง แถมมีข่าวลือว่าโรงเรียนนี้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอันธพาลแถวนั้น และกามินก็ได้พบความสามารถพิเศษของตัวเองในตอนที่เขาเข้าไปเกี่ยวพันกับปัญหาที่คาดไม่ถึง
My Dearest Nemesis (2025) บอสตัวร้าย นายยอดรัก
เรื่องราวของ “แบคซูจอง” เธอเป็นพนักงานออฟฟิศในบริษัทแห่งหนึ่ง นอกจากความสามารถในการทำงาน จะเก่งและขยันแล้ว เธอยังคอยสร้างความวุ่นวายให้กับประธานบริษัทหนุ่มอย่าง “บันจูยอน” อยู่เป็นประจำสาเหตุเพราะว่า ทั้งสองเคยรู้จักกันมาแล้วก่อนหน้านี้ในเกมออนไลน์ ตอนสมัยเรียนมัธยมหลังจากที่คบกันได้ไม่นาน ก็ได้เลิกรากันไปส่วน “แบคซูจอง” เธอได้ทิ้งความเสียใจและความอบอายไว้ให้ “บันจูยอน” มาโดยตลอด จนกระทั่งเวลาผ่านไป 10 ปี ทั้งคู่ได้กับมาพบกันอีกครั้งแต่ครั้งนี้ “บันจูยอน” จะกลายมาเป็นเจ้านายของ “แบคซูจอง” ทำให้เขาพยายามเอาคืนเธอให้ส่าสม และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ดงจิน ดาต้า ไมเนอร์ที่เก่งที่สุดในวงการนี้ ได้พบกับมีจอง เด็กสาวที่ลาออกจากโรงเรียนมัธยมปลายเพราะเหตุการณ์เลวร้ายต่อเนื่องที่ทำให้เด็กผู้ชายทุกคนที่เข้าหาเธอเสียชีวิต มีจองรู้สึกผิดอย่างมาก จึงตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกและซ่อนตัวจากทุกคน ด้วยความหวังว่าจะช่วยให้มีจองสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ดงจินจึงตัดสินใจพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่แม่มดและเรื่องประหลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอไม่ใช่ความผิดของเธอ เขาสืบสวนเหตุการณ์ทั้งหมด และยอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อทำลายกฎแห่งความตายโดยใช้ความรู้ทางสถิติของเขา
Melo Movie (2025) หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู
ผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ตกหลุมรักผู้กำกับมือใหม่ซึ่งจุดประกายความรักที่มอดลงเร็วเกินไป เมื่อเส้นทางของพวกเขามาบรรจบกันอีกครั้ง ความรักจะสามารถหาทางกลับมาได้หรือไม่?
Friendly Rivalry (2025) เพื่อนรัก เกมลวง
เรื่องราวของ “อูซึลกิ” (จองซูบิน) เด็กสาวกำพร้าที่ย้ายมาอยู่โซล และเข้าเรียนที่ ‘มัธยมปลายหญิงแชฮวา’ โรงเรียนสำหรับนักเรียนระดับท็อป 1% ของเกาหลีใต้ อูซึลกิที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมในโรงเรียนใหม่ได้ กลับดึงดูดสายตาและได้รับความสนใจเป็นพิเศษจาก “ยูเจอี” (ฮเยริ) นักเรียนอันดับ 1 ผู้เพียบพร้อมทั้งผลการเรียน และฐานะทางบ้าน ความแตกต่างของทั้งคู่ได้เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของกันและกัน แต่มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของการดิ้นรนเอาตัวรอดในเกมแห่งมิตรภาพ
The Trauma Code Heroes on Call (2025) ชั่วโมงโกงความตาย
เพื่อสร้างศูนย์รักษาผู้บาดเจ็บฉุกเฉินระดับชั้นนำ แพทย์ที่เคยผ่านสงครามจึงเดินทางมาถึง โดยนำวิธีการที่เฉียบขาดแต่มีทักษะของเขามาปรับปรุงทีมของเขาให้กลายเป็นผู้กล้าที่สามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้
[/read]