หนังฝรั่ง หรือ ภาพยนตร์ฮอลลีวูด (Hollywood) นับว่าสร้างผลพวงต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ มาตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษที่ 20 ด้วยสไตล์อันสะดุดตาของภาพยนตร์อเมริกันเป็น ภาพยนตร์คลาสสิกฮอลลีวูด ที่ปรับปรุงขึ้นระหว่างปี 1917 ถึง 1960 ภาพยนตร์อเมริกันสามารถสร้างความเด่นได้อย่างเร็ว แล้วก็เป็นแรงกระตุ้นอย่างแจ่มแจ้งให้กับอุตสาหกรรมตั้งแต่เริ่ม ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1920 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในสหรัฐสร้างรายได้รายปีได้สูงขึ้นยิ่งกว่าประเทศอื่นๆ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดนับว่าเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่โบราณที่สุดในโลก และก็นับว่าเป็นที่เกิดภาพยนตร์มากมายแนว ทั้งยังเฮฮา รัก ผาดโผน เพลง สยองขวัญ บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์ รวมทั้งภาพยนตร์มหากาพย์ ในปี 1878 เอดเวิร์ด มายบริดจ์ ได้สาธิตอำนาจของภาพยนตร์เคลื่อนไหว ในปี 1894 ได้มีการจัดแสดงภาพยนตร์เพื่อการค้าครั้งแรกของโลกที่นครนิวยอร์ก โดยใช้วิธีคิเนโตสโคปของทอมัส เอดิสัน สหรัฐยังผลิตภาพยนตร์ผนวกเสียงเรื่องแรกของโลก เรื่อง The Jazz Singer ในปี 1927 ได้กลายเป็นบรรทัดฐานในการพัฒนาภาพยนตร์เสียงในทศวรรษต่อมา ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 อุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกันตั้งอยู่ในรัศมี 30 ไมล์บริเวณสตูดิโอของฮอลลีวูด ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้กำกับ ดี. ดับเบิลยู. กริฟฟิท ถือเป็นผู้พัฒนาภาพยนตร์ ส่วนภาพยนตร์เรื่อง Citizen Kane (1941) มักได้รับคำอ้างจากนักวิจารณ์ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด

[read more]

สัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นของการผจญภัยในหนังฝรั่ง

สัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นของการผจญภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกับหนังฝรั่ง หนังฝรั่งนำเสนอเนื้อเรื่องและฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินจากภาพยนตร์คลาสสิกขาวดำไปจนถึงภาพยนตร์รีเมคสมัยใหม่ภาพยนตร์ตะวันตกดึงดูดผู้ชมมานานหลายทศวรรษ โครงเรื่องของหนังฝรั่งมักเน้นไปที่อันตรายของ Wild Westเมื่อคาวบอยและพวกนอกกฎหมายต่อสู้ฝ่าฟันผ่านเมืองที่ผิดกฎหมายและภูมิประเทศที่ไม่อาจให้อภัยได้ซีเควนซ์แอ็กชั่นนั้นเข้มข้นและน่าตื่นเต้นทำให้อะดรีนาลีนของคุณพลุ่งพล่านกับผู้ชมการยิงครั้งยิ่งใหญ่และการดวลที่อันตรายระหว่างตัวละครจะสร้างความสงสัยที่ทำให้คุณคาดเดาได้จนจบ หนังฝรั่งยังมีทิวทัศน์ที่กว้างไกลซึ่งแสดงถึงความงดงามของอเมริกาตะวันตกตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินใน Monument Valleyไปจนถึงเส้นทางที่เต็มไปด้วยฝุ่นในรัฐแอริโซนาภาพยนตร์คลาสสิกเหล่านี้จะทำให้กิจกรรมกลางแจ้งที่ขรุขระกลับมามีชีวิตชีวาบนหน้าจอภาพหุบเขา ทะเลทราย และภูเขาในรูปแบบภาพยนตร์จะนำพาผู้ชมไปสู่โลกแห่งการผจญภัย ความโรแมนติกและดราม่าในหนังฝรั่งนั้นน่าดึงดูดไม่แพ้ฉากแอ็คชั่นเลยตัวละครต่อสู้กับความทุกข์ยากในขณะที่พยายามสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้างซึ่งมักจะเสี่ยงทุกอย่างเพื่อความรักหรือความภักดีเรื่องราวเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจและย้ำเตือนเราว่าความกล้าหาญและความมุ่งมั่นจะนำพาเราผ่านอุปสรรคต่างๆได้

สัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นที่หนังฝรั่งนำเสนอได้ด้วยการรับชมวันนี้เลย!ไม่ว่าคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ตะวันตกคลาสสิกหรือภาพยนตร์รีเมคสมัยใหม่คุณก็จะพบกับสิ่งที่น่าตื่นเต้นในประเภทนี้อย่างแน่นอน หยิบป๊อปคอร์นของคุณนั่งเอนหลัง และเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร เฉพาะในหนังฝรั่งเท่านั้น! สำหรับใครที่มีเวลาว่างแล้วกำลังมองหาหนังฝรั่งและซีรีส์ฝรั่งไว้ใช้ฝึกภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทั้งในการพูด ฟัง อ่าน เขียน หรือเก็บสำนวนภาษา ประโยคเด็ด และวลียอดฮิตจากผลงานหนังฝึกภาษาประเภทต่าง ๆ มาใช้ได้จริง แนะนำให้ลองหาหนังภาษาอังกฤษเหล่านี้มาดูกัน เพราะมีความหลากหลายทางการใช้ภาษาอังกฤษ เนื้อหาที่น่าสนใจ และโดยเฉพาะตัวละครที่พูดคุยกันในระดับความยากง่ายแตกต่างกัน บางเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย อาจจะลองเปิดซับอังกฤษดูก่อน แต่บางเรื่องถ้ามั่นใจว่าเอาอยู่ จะลองเปิดดูแบบฟังอย่างเดียวเพื่อทดสอบตัวเองแบบไม่มีซับไปเลยก็ยิ่งดี! บางเรื่องเป็นหนังภาษาอังกฤษ Netflix และบางเรื่องเป็นซีรีส์ Netflix ดูหนังออนไลน์ได้เลย

ภาพยนตร์ฮอลลีวูดคลาสสิกและยุคทองของฮอลลีวูด

ภาพยนตร์ฮอลลีวูดคลาสสิกหรือยุคทองของฮอลลีวูดถูกกำหนดให้เป็นรูปแบบทางเทคนิคและการเล่าเรื่องที่เป็นลักษณะเฉพาะของภาพยนตร์อเมริกันตั้งแต่ปี 1913 ถึง 1962 ซึ่งเป็นช่วงที่ภาพยนตร์หลายพันเรื่องถูกฉายโดยสตูดิโอฮอลลีวูด รูปแบบคลาสสิกเริ่มปรากฏขึ้นในปี 1913 และได้รับการเร่งรัดในปี 1917 หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1และในที่สุดก็แข็งแกร่งขึ้นเมื่อภาพยนตร์เรื่องThe Jazz Singerออกฉายในปี 1927 ซึ่งยุติยุคภาพยนตร์เงียบและเพิ่มผลกำไรจากบ็อกซ์ออฟฟิศให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยนำเสียงมาใช้ในภาพยนตร์สารคดี ภาพยนตร์ฮอลลีวูดส่วน ใหญ่ยึดตามสูตรสำเร็จอย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์คาวบอยตลกโปกฮามิวสิ คัล การ์ตูน แอนิเมชั่น หรือชีวประวัติและทีมงานสร้างสรรค์ชุดเดียวกันมักจะทำงานในภาพยนตร์ที่สร้างโดยสตูดิโอเดียวกัน ตัวอย่างเช่นCedric GibbonsและHerbert Stothartเคยทำงานในภาพยนตร์ของ MGM มาตลอด Alfred Newmanทำงานที่20th Century Foxนานถึง 20 ปี ภาพยนตร์ของ Cecil B. De Milleเกือบทั้งหมดถ่ายทำที่Paramountและภาพยนตร์ของผู้กำกับHenry Kingส่วนใหญ่ถ่ายทำให้กับ20th Century Fox ในเวลาเดียวกัน คนทั่วไปมักจะเดาได้ว่าสตูดิโอใดสร้างภาพยนตร์เรื่องใด ส่วนใหญ่เป็นเพราะนักแสดงที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ เรื่องนั้น เช่น MGMอ้างว่าได้ว่าจ้าง “ดารามากกว่าจำนวนดวงดาวบนสวรรค์” แต่ละสตูดิโอมีสไตล์และลักษณะเฉพาะของตนเองที่ทำให้ทราบได้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่แทบไม่มีอยู่ในปัจจุบัน

ระบบสตูดิโอ

บริษัทภาพยนตร์ดำเนินงานภายใต้ระบบสตูดิโอสตูดิโอใหญ่ๆ จ้างพนักงานหลายพันคน ได้แก่ นักแสดง ผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้กำกับ นักเขียน นักแสดงแทน ช่างฝีมือ และช่างเทคนิค พวกเขาเป็นเจ้าของหรือเช่าฟาร์มภาพยนตร์ในชนบททางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ ประเภท ตะวันตกและภาพยนตร์ประเภทใหญ่ๆ อื่นๆ และสตูดิโอใหญ่ๆ เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์หลายร้อยแห่งในเมืองและเมืองเล็กๆ ทั่วประเทศในปี 1920 ซึ่งโรงภาพยนตร์ที่ฉายภาพยนตร์ของพวกเขาและต้องการเนื้อหาใหม่ๆ อยู่เสมอ สเปนเซอร์ เทรซีย์ซึ่งเป็นนักแสดงคนแรกที่ได้รับ รางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมติดต่อกันสองปีจากบทบาทในCaptains Courageous (1937) และBoys Town (1938) (และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกเจ็ดครั้ง) ในปี 1930 ประธาน MPPDA Will Hays ได้สร้างHays (Production) Code ซึ่งปฏิบัติตามแนวทางการเซ็นเซอร์และมีผลบังคับใช้หลังจากที่รัฐบาลขู่ว่าจะเซ็นเซอร์เพิ่มมากขึ้นในปี 1930 อย่างไรก็ตาม รหัสนี้ไม่เคยถูกบังคับใช้จนกระทั่งปี 1934 หลังจากที่องค์กรเฝ้าระวังคาธอลิกThe Legion of Decencyซึ่งรู้สึกตกใจกับภาพยนตร์ที่ยั่วยุและโฆษณาที่ลามกอนาจารบางเรื่องในยุคที่ภายหลังถูกจัดประเภทเป็นPre-Code Hollywoodได้ขู่ว่าจะคว่ำบาตรภาพยนตร์หากไม่นำไปบังคับใช้ ภาพยนตร์ที่ไม่ได้รับตราประทับการอนุมัติจาก Production Code Administration จะต้องจ่ายค่าปรับ 25,000 ดอลลาร์ (เทียบเท่ากับ 470,568 ดอลลาร์ในปี 2024) และไม่สามารถหากำไรในโรงภาพยนตร์ได้ เนื่องจาก MPPDA ควบคุมโรงภาพยนตร์ทุกแห่งในประเทศผ่านสตูดิโอ Big Five

ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1930 รวมถึงตลอดช่วงยุคทองส่วนใหญ่MGMครองจอภาพยนตร์และมีดาราดังระดับแนวหน้าของฮอลลีวูด และพวกเขายังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างระบบดาราฮอลลี วูด อีกด้วย  ดารา ของ MGM บางคนได้แก่ “ราชาแห่งฮอลลีวูด” คลาร์ก เกเบิลไลโอเนล แบร์รีมอร์ จีน ฮาร์โลว์ นอร์มา เชียเรอ ร์ เกร ตา กา ร์โบโจน ครอว์ฟอร์ดจีนเน็ตต์ แมคโดนัลด์จีนเรย์มอนด์สเปนเซอร์ เทรซีย์จูดี้การ์แลนด์และจีน เคลลี ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์อเมริกันในยุคนี้เกิดขึ้นจากบริษัทแอนิเมชั่น ของวอลต์ ดิสนีย์ ในปี 1937 ดิสนีย์ได้สร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนั้น นั่นคือสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ความแตกต่างนี้ถูกแซงหน้าอย่างรวดเร็วในปี 1939 เมื่อเซลซนิก อินเตอร์เนชั่นแนลสร้างภาพยนตร์ที่ยังคงประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาลอย่าง Gone with the Wind

สุดยอดหนังฮอลลีวูดที่ควรเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นที่บ้าน

1. The God Father

สำหรับคอหนังฝรั่ง หนังคลาสสิคตลอดกาลที่ไม่มีวันลืม และควรค่ากับการเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นคือ The God Father หนังฟอร์มยักษ์ระดับไตรภาค โดยภาคแรกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1972 ภาคที่ 2 สร้างในปี ค.ศ. 1974 และภาคสุดท้ายในปี ค.ศ. 1990 ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายของ Mario Puzo เป็นหนังแอ็คชั่น-ดราม่า แต่ก็แทรกความโรแมนติกไว้อย่างล้นจอ กำกับโดย Francis Ford Coppola ผู้กำกับหนังฮอลลีวูดผู้หยิ่งใหญ่ตลอดกาล The God Father เป็นเรื่องราวของครอบครัวมาเฟียเชื้อสายอิตาเลียน Don Vito Corleone แสดงโดย Marlon Brando ผู้ทรงอำนาจในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในยุค 40’s-50’ และอยู่บนเส้นทางของอิทธิพลทั้งกับนักการเมือง และนักกฏหมาย ชีวิตของเขาอยู่ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจ การหักหลัง การใช้ความรุนแรงของอิทธิพลเถื่อนระหว่างแก๊งค์มาเฟียกลุ่มต่างๆ และความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว คนในการปกครอง ลูกน้อง และการฟาดฟันเพื่อก้าวขึ้นเป็นใหญ่บนวิถีแห่งมาเฟียของกรุงนิวยอร์ก The God Father มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมาย นอกจาก Marlon Brando แล้ว ยังมี Al Pacino, James Caan, Robert Duvall, Richard Castellano, Diane Keaton และอีกหลายคน นับเป็นหนังคลาสสิคติดอันดับต้นๆ ตลอดกาล เป็นภาพยนต์ที่มีเนื้อหาดี และสรา้งความประทับใจ จนคนรักหนังฝรั่งควรเก็บไว้เป็นคอลเลคชั้นทั้ง 3 ภาคเลย

2. Pretty Woman (1990)

‘ผู้หญิงบานฉ่ำ’ หรือ Pretty Woman หนังรักแนวโรแมนติกคอเมดี้ที่แฟนหนังฮอลลีวูดทุกคนควรมีเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่น เป็นเรื่องราวของ Vivian แสดงโดย Julia Roberts สาวสวยขายบริการกับ Edward Lewis เศรษฐีนักธุรกิจหนุ่มแสดงโดย Richard Gere ผู้เสนอเงินก้อนหนึ่งว่าจ้างเธอควรคู่เขาเข้างานสังคมและเป็นเพื่อนเที่ยวในตลอดทั้งสัปดาห์ที่เขามาทำธุรกิจที่ลอสแอนเจลิส ตลอดเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน Vivian ทำให้เขาประทับใจในตัวเธอ ยิ่งได้รู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น เขารู้สึกว่า Vivian ไม่ได้เป็นแค่หญิงสาวขายบริการทั่วไป เธอมีความพิเศษบางอย่างที่เขาประทับใจ เธอทำให้เขารู้สึกมีความสุขในทุกๆ ครั้งที่ได้อยู่ใกล้ จนในที่สุดเขาและเธอก็ตกหลุมรักกันเข้าจนได้ ฉากเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนที่รัก Julia Roberts และ Vivian คือเมื่อ Edward ทิ้งเงินไว้ให้เธอไปจับจ่ายหาซื้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูเหมาะสมและงามสง่ากว่าชุดที่เธอใส่อยู่ เธอเข้าไปในร้านเสื้อผ้าสุดหรูและโดนดูถูก ไล่ออกจากร้าน เธอเก็บความเจ็บใจไว้ และเมื่อเธอกลับไปอีกครั้งกับ Edward เธอกลับได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนเธอสบโอกาสได้ตอกกลับพนักงานขายหญิงที่เคยดูถูกเธอไว้ด้วยประโยคที่สะใจคนทั่วโลก “You work on commission, right? Big mistake. Big. Huge.” บอกเลย หนังเรื่องนี้ต้องมีติดบ้านไว้

3. Sleepless in Seattle (1993)

เป็นเรื่องราวของ Sam Baldwin แสดงโดย Tom Hanks ชายหนุ่มที่สูญเสียภรรยาไป เขากลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวอยู่กับลูกชายวัย 8 ขวบ Jonah เขาย้ายบ้านจากชิคาโกไปอยู่ซีแอตเติลเพื่อหลีกหนีความเศร้าจากการสูญเสีย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของเขาดีขึ้น Sam เขาไม่เคยนอนหลับได้สนิทสักคืน และถึงแม้ว่าลูกชาย Jonah ยังคงคิดถึงแม่ แต่เขาก็อยากให้พ่อมีความสุข อยากให้พ่อกลับมาเดทสาวอีกครั้ง เมื่อ Sam ทนคำรบเร้าของลูกชายไม่ได้ ในคืนคริสต์มาสอีฟ เขาได้โทรศัพท์เข้าไปในรายการวิทยุรายการหนึ่ง พูดถึงภริยาที่เขาเสียไป พร้อมความรักและความคิดถึงเธอ ทำให้สาวหลายร้อยคนเขียนจนหมายมาสมัครเป็นแม่คนใหม่ให้กับ Jonah รวมทั้ง Annie Reed แสดงโดย Meg Ryan นักหนังสือพิมพ์สาวที่อาศัยอยู่ในบัลติมอร์ เธอได้เข้าไปฟังเรื่องราวของเขา และรู้สึกประทับใจทั้งที่เธอเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เธอจึงเขียนจดหมายถึงเขา โดยนัดเจอเขาที่ยอดตึกเอ็มไพร์สเตทในกรุงนิวยอร์กในคืนวันแห่งความรัก ซึ่งนับเป็นหน้าที่ของ Jonah ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อได้เจอกับ Annie ตามนัด แต่จะเจอกันมันไม่ใช่เรื่องง่าย และใครจะเชื่อว่า Annie คือผู้หญิงที่ Sam เคยเห็นหลายครั้งและสะดุดตาเธอมาก ความรักแสนโรแมนติกและครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เพื่อรักษาหัวใจที่แตกร้าวของ Sam และ Jonah

4. Legends of the Fall (1994)

ภาพยนตร์มหากาพย์อเมริกันตะวันตก หรือหนังคาวบอยที่โด่งดัง กล่าวถึงครอบครัว Ludlow ที่มีบ้านชนบทในไร่ปศุสัตว์ในรัฐมอนตานา เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มระอุ ครอบครัว Ludlow ประกอบด้วย General William Ludlow ผู้เป็นพ่อ แสดงโดย Anthony Hopkins อดีตนายพลผู้ดูแลนโยบายกองทัพที่ต้องดูแลบุตรชายทั้งสาม ประกอบด้วย Alfred แสดงโดย Aidan Quinn พี่ชายคนโตที่ต้องรับผิดชอบดูแลน้องๆ Tristan แสดงโดย Brad Pitt น้องชายคนกลางผู้มีจิตวิญญาณที่รักอิสระ และน้องชายคนเล็กสุดที่รักของครอบครัว Samuel แสดงโดย Henry Thomas เมื่อวันหนึ่ง Samuel นำคู่หมั้นสาว Susannah แสดงโดย Julia Ormand ผู้งดงามและมีชีวิตชีวากลับมาบ้านไร่ พี่ชายทั้งสองต่างตกหลุมรักเธอ และนั้นคือที่มาแห่งจุดเริ่มต้นแห่งความผันผวน ความรัก หัวใจที่แตกสลาย และความตายในครอบครัว Ludlow นับเป็นภาพยนต์ที่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เรื่องราวชวนติดตาม และเป็นภาพยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว

5. Forrest Gump (1994)

Forrest Gump หรือชื่อภาษาไทยว่า ‘อัจฉริยะปัญญานิ่ม’ เป็นเรื่องของ Forrest Gump รับบทโดย Tom Hanks ชายหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับไอคิว 75 พร้อมขาที่เป็นโปลิโอ แม่ของเขา Mrs Gump แสดงโดย Sally Field ทำทุกวิถีทางให้ Forrest เข้าโรงเรียนสำหรับเด็กปกติ ด้วยความที่เป็นเด็กไอคิดต่ำ Forrest จึงเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และไม่คิดอะไรซับซ้อน ในช่วง 30 ปีแห่งความโกลาหลแห่งชีวิต Forrest ดำเนินชีวิตผ่านช่วงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผันเขาจากชายพิการไปเป็นดาราอเมริกันฟุตบอล จากวีรบุรุษในสงครามเวียดนามเป็นเศรษฐีธุรกิจเรือจับกุ้ง จากเกียรติยศแห่งทำเนียบขาวไปสู่อ้อมกอดของผู้ที่เขามีใจรักจริงนั่นคือ Jenny Curran ที่รับบทโดย Robin Wright หญิงสาวที่เขาหลงรักเธอตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน บทบาทของ Forrest Gump คือ ลักษณะรูปธรรมแห่งยุค บ่งบอกถึงความไร้เดียงสาในดินแดนอเมริกาที่กำลังสูญเสียความบริสุทธิ์ในหัวใจของผู้คน ไอคิวอันจำกัดของ Forrest ไม่เคยเป็นอุปสรรคในความสำเร็จของเขา Forrest เต็มเปี่ยมไปด้วยศีลธรรมและจรรยาบรรณที่ดี ความสำเร็จและชัยชนะทั้งหลายของเขากลายเป็นแรงบันดาลใจแก่เราทุกคน

6. One Fine Day (1996)

One Fine Day หรือชื่อภาษาไทยว่า ‘วันหัวใจสะกิดกัน’ ภาพยนตร์โรแมนติกคอมมาดี้-ดราม่า นำแสดงโดย George Clooney และ Michelle Pfeiffer One Fine Day เป็นเรื่องราวของวันวุ่นๆ ของ Melanie Parker รับบทโดย Michelle Pfeiffer คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดูแล Sammy ลูกชายจอมซน รับบทโดย Alex D. Linz ที่วันๆ เธอมีแต่ความวุ่นวาย ทั้งการงานและการดูแลลูก ส่วนอีกคนคือ Jack Taylor รับบทโดย George Clooney คอลัมนิสต์หนุ่มที่กำลังตามข่าวสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมาทำหน้าที่คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกสาวของเขา Maggie รับบทโดย Mae Whitman ในวันหนึ่งที่แสนวุ่นวาย ทั้งสองได้รู้จักกันโดยบังเอิญจากการเป็นผู้ปกครองนักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน และเริ่มต้นด้วยการไปส่งลูกไปทัศนศึกษา แต่ไปไม่ทัน เกิดการไม่กินเส้นกัน ตีกัน พูดจาแขวะกันตลอด แต่ก็ลงท้ายด้วยความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นทีละเล็กที่ละน้อยด้วยพลังของคิวปิดตัวน้อยทั้งสอง นับเป็นภาพยนต์อีกเรื่องที่แสนโรแมนติก ถ่ายทำให้เราเห็นมุมต่างๆ ในมหานครนิวยอร์ก กับชีวิตคนเมืองที่แสนวุ่นวาย ให้เราได้เห็นมุมสวยๆ แม้อากาศอาจขมุกขมัวไปบ้าง แต่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วรับรองว่าคุณต้องอยากไปเที่ยวนิวยอร์กเป็นแน่

7. As Good As It Gets (1997)

As Good As It Gets หรือชื่อภาษาไทยว่า ‘เพียงเธอ…รักนี้ดีสุดแล้ว’ เป็นหนังที่เจาะลึกถึงแก่นแท้ของมนุษย์ การแสดงออกถึงนิสัยด้านมืดอันเป็นกิเลสของมนุษย์ ความเห็นแก่ตัว ที่ยังมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย เปิดเรื่องด้วย Melvin Udall รับบทโดย Jack Nicholson หนุ่มใหญ่นักเขียนนวนิยายรักโรแมนติก ที่มีฐานะดีถึงขนาดอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์สุดหรูกลางกรุงนิวยอร์ก แต่แม้จะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ชีวิตเขากลับไม่สมบูรณ์แบบเขาเป็นโรคกลัวเชื้อโรค หรือ Mysophobia เป็นหนุ่มใหญ่ที่มีความเก็บกด จิตใจคับแคบ อารมณ์ร้าย และชอบพูดจาถากถางผู้คน โดยเฉพาะเพื่อนจิตรกรข้างห้องอย่าง Simon Bishop รับบทโดย Greg Kinnear ที่เขารังเกียจในความเป็นเกย์ของจิตรกรหนุ่ม แม้กระทั่งเจ้า Verdale หมาน้อยแสนน่ารักที่ไซมอนรักเหมือนลูก Melvin ก็แสนจะรังเกียจ ถึงขนาดโยนเจ้าหมาน้อยลงช่องใส่ขยะของอาคารยามที่ Simon เผลอปล่อยให้ออกมานอกห้อง

แต่แล้วเกิดมีเรื่องราวที่ทำให้ Melvin จำใจต้องเอาเจ้าสุนัขน้อยมาเลี้ยงชั่วคราว เนื่องจาก Simon โดยทำร้ายจนบาดเจ็บต้องนอนโรงพยาบาล ความผูกพันระหว่างสุนัขตัวน้อยกับคนใจแคบ ปากร้ายเริ่มเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ Melvin ได้พบกับพนักงานเสิร์ฟสาว Carol Connelly รับบทโดย Helen Hunt ในร้านอาหารที่เขาไปรับประทานเป็นประจำ ที่เข้ามาให้บทเรียนในชีวิตกับเขา ช่วยให้ชีวิตของ Melvin เปลี่ยนแปลงขึ้น จากผู้ชายปากร้าย ดูถูกคนไปทั่ว กลับกลายเป็นคนที่มีจิตใจดี และกำลังมีความรัก นับเป็นหนังไดอะล็อกที่สนุก สะท้อนชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงนิวยอร์กที่ไม่ค่อยจะช่วยเหลือกัน ไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อ Melvin ได้สัมผัสกับเจ้า Verdale และ Carol ทำให้มุมมอง และทัศนะคติของเขาเปลี่ยนแปลงไป

8. My Best Friend’s Wedding (1997)

My Best Friend’s Wedding เป็นเป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมมาดี้แห่งยุค 90’s ว่าด้วยเรื่องของความรักระหว่างเพื่อนสนิท 2 คน ผ่านเรื่องราวของ Julianne “Jules” รับบทโดย Julia Roberts นักเขียนวิจารณ์อาหารสาวสวย กับ Michael รับบทโดย Dermot Mulroney นักข่าวกีฬาผู้เป็นอดีตคนรักและกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ทั้งสองเคยพูดคุยกันว่าหากอายุครบ 28 ปีแล้วต่างคนยังโสด ทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่เมื่อจูเลี่ยนกำลังจะอายุครบ 28 ไมเคิลกลับบอกข่าวกับเธอว่าเขากำลังจะแต่งงานกับ Kimmy รับบทโดย Cameron Diaz และต้องการให้จูเลี่ยนเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ แผนการทวงคืนผู้ชายที่รักจึงเริ่มต้นขึ้น Julianne ตัดสินใจบินลัดฟ้าไปหา Michael โดยฉับพลันด้วยเป้าหมายที่จะขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้เกิดการแต่งงานครั้งนี้ขึ้น เธอกลายเป็นนางร้ายที่แสร้งทำเป็นเข้าใจและช่วยเหลือว่าที่คู่บ่าวสาวทุกอย่าง แต่อันที่จริง เธอต้องการชิงเขากลับมาเป็นของเธอ หนังเรื่องนี้เรียกว่าครบรส ทั้งโรแมนติก ทั้งตลก แถมเคล้าน้ำตา นับเป็นหนังฮอลืลีวูดที่ต้องเก็บไว้ในคอลเลคชั้นที่บ้านอีกเรื่อง

9. There’s Something About Mary (1998)

There’s Something About Mary หรือมีชื่อไทยว่า ‘มะรุมมะตุ้มรุมรักแมรี่’ เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่โด่งดังไปทั่วโลก กำกับโดยสองพี่น้อง Farrelly – Peter และ Bobby เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Ted แสดงโดย Ben Stiller ที่เคยออกเดทกับ Mary แสเดงโดย Cameron Diaz ในงานพรอมสมัยไฮสคูล และยังคงหลงรักในตัวเธอแม้ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง Ted อยากกลับมาสานสัมพันธ์กับ Mary อีกครั้ง แม้นพรอมเดทครั้งนั้นจะเหมือนเป็นหายนะของเขาก็ตาม Ted จึงจ้างนักสืบเอกชน Pat Healy แสดงโดย Matt Dillon ให้ตามหาเธอ แต่ Pat กลับหลงรัก Mary และทำทุกอย่างเพื่อโกหก Ted เกี่ยวกับเธอ แต่อย่างไรก็ตาม Ted เองก็พยายามทุกอย่างที่จะเอาชนะใจ Mary อีกครั้ง เรื่องวุ่นๆ ชุลมุนจึงได้เกิดขึ้น เป็นหนังตลกที่เอากลับมาดูอีกกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ แถมทำให้เราทึ่งกับความสวย หุ่นดี และความน่ารักของ Cameron Diaz อีกด้วย

10. You’ve Got Mail (1998)

You’ve Got Mail หนังดีจากฝั่งฮอลลีวูดที่หยิบเอาหนังเก่าคลาสสิคเรื่อง The Shop Around The Corner มาสร้างใหม่ เพียงเปลี่ยนจากการเขียนจดหมาย หรือ Pen Friend มาเป็นการส่งอีเมลตามสมัยนิยมยุคอินเตอร์เนต หนังโรแมนติกคอมมาดี้เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ Katherine Kelly แสดงโดย Meg Ryan กับ Joe Fox แสดงโดย Tom Hanks ทั้งสองได้ติดต่อกันผ่านทางอีเมล แต่ทั้งคู่ต่างไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยสักครั้งเดียว เป็นการติดต่อกันโดยต่างฝ่ายไม่เปิดเผยตัวจริงโดย Katherine คือ เจ้าของร้านขายหนังสือเล็กๆ ที่ชื่อว่า The Shop Around The Corner ส่วน Joe เป็นเจ้าของธุรกิจร้านหนังสือยักษ์ใหญ่ที่กำลังจะทำให้ร้านหนังสือเล็กๆ ของ Katherine ต้องปิดกิจการลง ความรักเกิดขึ้นในระหว่างที่ทั้งสองคนติดต่อผ่านอีเมลบนโลกออนไลน์โดยไม่เคยทราบเลยว่าทั้งสองนั้นเป็นปฏิปักษ์กันเพราะธุรกิจล้วนๆ

[/read]