เรื่องย่อ : Henry V (1989) เฮนรี่ที่ 5 จอมราชันย์ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี NungHD หนังเต็มเรื่อง พากย์ไทย ซับไทย ดูหนังใหม่ 2024
เป็นภาพยนตร์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์สัญชาติอังกฤษที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1989 ที่ดัดแปลงมาสำหรับหน้าจอโรงภาพยนตร์และและกำกับโดย เคนเนธ บรานาห์ ซึ่งสร้างจากบทละครของ วิลเลียม เชกสเปียร์ ที่มีชื่อเดียวกันเกี่ยวกับ พระเจ้าเฮนรีที่ 5 แห่งอังกฤษ Henry V ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย เคนเนธ บรานาห์ ในบทนำร่วมกับ พอล สโกฟีลด์, เดเร็ค จาโคบี้, เอียน โฮล์ม, เอ็มมา ทอมป์สัน, อเล็ค แมคโคเวน, จูดี เดนช์, ร็อบบี้ โคลทราน, ไบรอัน เบลสเซด และ คริสเตียน เบล ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลกและได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ดัดแปลงของวิลเลียมเชกสเปียร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับผลงานของเธอในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฟิลลิส ดาลตัน ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และ เคนเนธ บรานาห์ ในการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และ ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ในวันนี้ก็ขอแว้บมาพรีวิวหนังกันอีกแล้ว โดยหนังที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ก็คือ “the King” ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ของเดวิด มิจด (David Michôd )ที่ดัดแปลงมาจากวรรณคดีอันเป็นบทละครอิงประวัติศาสตร์ของวิลเลี่ยม เชคสเปียรส์ชุด “เฮนรี่สมัย” (Henriad) ที่คาบเกี่ยวระหว่างกษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 (King Henry IV) และเฮนรี่ที่ 5 (Henry V) แห่งอังกฤษ โดยเรื่องราวในเรื่องนี้จะเน้นที่ช่วงปลายรัชสมัยของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 แห่งวงศ์แลงคาสเตอร์ (House of Lancaster) กษัตริย์แห่งอังกฤษผู้ทรงชิงบัลลังก์มาจากกษัตริย์ริชาร์ดที่ 2 (Richard II) จนทำให้บ้านเมืองต้องเข้าสู่สงครามกลางเมืองของเหล่าขุนนางและเจ้านายในราชวงศ์ที่ไม่ยอมรับสิทธิอำนาจในการปกครองแผ่นดินของพระองค์ แต่ “เจ้าชายฮัล” (Hal) หรือ Henry V “เฮนรี่” พระโอรสองค์โตของพระองค์กลับมิเอาพระทัยใส่ในราชการ เอาแต่สำมะเลเทเมาไปวันๆ จนทำให้พระบิดาทรงไม่พอพระทัยและไม่ต้องการให้พระองค์สืบทอดราชบัลลังก์ และไปยกสิทธิ์ให้พระอนุชาคือ “เจ้าชายโทมัส” (Prince Thomas) เป็นรัชทายาทแทน หากแต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อพระอนุชาของพระองค์กลับสิ้นพระชนม์ในการศึกปราบกบฎเวลส์ และพระบิดาก็กำลังจะทรงประชวรจนถึงขั้นใกล้สิ้นพระชนม์แล้ว เจ้าชายฮัลจึงได้รับการเสนอให้กลับมารัชทายาท และได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษในที่สุด
แน่นอนว่า แม้การขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์องค์ใหม่นี้จะทำให้ความวุ่นวายในรัชสมัยของพระบิดาเริ่มสงบลงไปบ้าง แต่พระองค์ก็มิได้เป็นที่เคารพยำเกรงของเหล่าขุนนางเท่าใดนัก และยังเป็นที่เย้ยหยันจากชาติศัตรูอย่างฝ่ายฝรั่งเศสอีกด้วย โดยทางฝ่ายฝรั่งเศสได้ส่งของขวัญแสดงความยินดีในการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ด้วย “ลูกเทนนิส” เพื่อเป็นการสบประมาทเย้ยหยันว่าพระองค์ทรงเป็นแค่เด็กอ่อนหัดเท่านั้น แต่องค์กษัตริย์หนุ่มก็ยังคงเลือกที่จะเมินเฉยต่อท่าทีดังกล่าวต่อไป จนในที่สุดพระองค์ก็ได้ทราบว่าฝ่ายฝรั่งเศสได้ส่งมือสังหารหมายลอบปลงพระชนม์ของพระองค์ และยังสืบพบว่ามีเหล่าขุนนางคนสนิทคิดคดทรยศด้วยแล้ว จึงทำให้กษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ในวัย 27 ชันษาจึงทรงประกาศสงครามอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ฝรั่งเศสในทันที แม้ว่าผลแห่งสงครามนั้นจะทำให้พระองค์ทรงได้รับชัยชนะและมีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์แล้ว แต่สุดท้ายแล้วพระองค์จะได้รู้ว่าการได้มาซึ่งชัยชนะนี้กลับหาได้มีความถูกต้องชอบธรรมแม้แต่เพียงน้อยนิด หากแต่เป็นเพียงกลลวงเล่ห์ทางการเมืองของเหล่าขุนนางที่ต้องการเชิดพระองค์ไว้บนบัลลังก์เพื่ออำนาจของตนเท่านั้นเอง… เอาล่ะ ผมต้องขอบอกก่อนว่า ในบรรดาภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ที่ผ่านมานั้น ล้วนแต่อ้างอิงมาจากงานวรรณกรรมของเชคสเปียรส์เสียทั้งสิ้น และได้ถูกสร้างขึ้นมาถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยเรื่องแรกนั้นชื่อว่า
– “Henry V” ซึ่งกำกับและนำแสดงโดย “ลอว์เรนซ์ โอลิวิเย่” (Laurence Olivier) เข้าโรงฉายในปี ค.ศ. 1944
– Henry V ฉบับที่ 2 ก็ถูกสร้างขึ้นในชื่อเดียวกันนี้เมื่อปี ค.ศ. 1989 โดยมีผู้กำกับคือ “แคนเนธ แบรนากห์” (Kenneth Branagh) ผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังจากฝั่งอังกฤษเหมือนกัน
สำหรับเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Henry V ทั้งสองฉบับนี้ก็คือ ผู้กำกับลงมารับบทเป็นพระเจ้าเฮนรี่เองเหมือนกัน และทั้งสองก็ยังเลือกที่จะใช้บทภาพยนตร์จากบทละครของเชคสเปียรส์โดยตรงเหมือนกันด้วย
– ในฉบับที่ 3 นั้นเป็นหนึ่งในมินิซีรี่ย์ “Hollow Crown” ของสถานีบีบีซีของประเทศอังกฤษ (อีกแล้ว) และแม้ว่าในฉบับนี้จะแตกต่างออกไปตรงที่ผู้กำกับไม่ได้รับบทเป็นพระเจ้าเฮนรี่เองอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็น “ทอม ฮิดเดิลทัน” (Tom Hiddleston) นักแสดงชาวอังกฤษชื่อดังที่มีชื่อมาจากบทของเทพโลกิในภาพยนตร์มาร์เวลส์ หากแต่มินิซีรี่ย์เรื่องนี้ก็ยังใช้บทที่เอามาจากบทละครของเชคสเปียรส์เหมือนเดิมนั่นล่ะครับ
จนกระทั่งมาในเรื่อง the king กลับใช้เพียงแค่โครงเรื่องและเหตุการณ์สำคัญหลักๆเท่านั้น แต่กลับสร้างบทภาพยนตร์และปมสำคัญของเรื่องใหม่เสียหมด จนเรียกได้ว่าน่าจะเป็น “การตีความใหม่” เลยก็ว่าได้
แน่นอนครับว่า การตีความใหม่ของมิจดนั้นนับว่าทำได้ดีและน่าติดตามมากทีเดียว การแสดงตามบทบาทของนักแสดงแต่ละคนในเรื่องก็ทำได้ดีมากเช่นกัน โดยเฉพาะโรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) ดาราหนุ่มที่เคยโด่งดังมาจากบทพ่อหนุ่มแวมไพร์ในเรื่องทไวไลท์ ซึ่งได้รับบทเป็น “เจ้าฟ้าชายแห่งฝรั่งเศส” ( Dauphin) นั้น สามารถแสดงท่าทีความโอหังและทรงพลังอำนาจขององค์รัชทายาทแห่งฝรั่งเศสได้อย่างน่าชื่นชมมาก แต่ผมกลับมองว่าการตีความใหม่ของมิจดกลับเลยเถิดจนเลอะเทอะไปหลายอย่างเลยครับ ซึ่งเนื้อหาในลำดับต่อไปนี้จะเป็นการอธิบายข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เทียบกับงานของเชคสเปียรส์และภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยจะมีการเปิดเผยหรือสปอยล์เนื้อหาอย่างแรง หากใครที่ยังไม่ได้ดูและไม่อยากจะรู้สปอยล์นี้ก็ให้หยุดลงแต่เพียงเท่านี้ แต่ถ้าใครไม่แคร์เรื่องนี้ หรืออยากรู้ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เพื่อที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้อย่างมีอรรถรสมากขึ้นก็ตามอ่านต่อไปได้เลยครับ
1. ในภาพยนตร์เรื่องเฮนรี่ที่ 5 ทั้้งสามฉบับก่อนหน้านี้ยึดตามเนื้อหาในงานของเชคสเปียรส์ที่ว่า ปมประเด็นสำคัญของการทำสงครามกับฝรั่งเศสนั้นมาจากความพยายามของเหล่าพระราชาคณะที่ต้องการขยายอิทธิพลในดินแดนฝรั่งเศส จึงพยายามทูลเสนอให้เปิดศึกกับฝรั่งเศสด้วยการอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ที่สืบมาแต่พระอัยกาคือกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 3 (Edward III) และกอปรกับการดูหมิ่นของเจ้าฟ้าชายแห่งฝรั่งเศสที่ส่งลูกเทนนิสมาเย้ยหยันพระองค์ จึงทำให้กษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ทรงประกาศสงครามกับฝรั่งเศสในทันที ซึ่งในฉบับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคงรักษาปมเรื่องการขยายอิทธิพลเอาไว้ตามเดิม แต่กลับเป็นไปเน้นที่พวกขุนนางแทนเหล่าพระราชาคณะ และแปลงความเสียใหม่ว่า เป็นพวกขุนนางอังกฤษที่กระหายสงครามต่างหากที่จัดเครื่องบรรณาการปลอมจากฝรั่งเศส
แล้วทูลเท็จว่าเป็นของเจ้าฟ้าชายแห่งฝรั่งเศสต้องการเย้ยหยันกษัตริย์องค์ใหม่ หากแต่กลายเป็นว่ากษัตริย์เฮนรี่ในฉบับนี้กลับมิได้ทรงต้องการสงครามมาตั้งแต่ต้น แถมกลับยังเลือกที่จะนิ่งเฉยและพยายยามหลีกเลี่ยงสงครามอยู่ทุกกรณี จนสุดท้ายก็ไปเหลืออดเหลือทนกับการปล่อยข่าวลวงว่ามีขุนนางในราชสำนักสมคบพวกฝรั่งเศส จนนำไปสู่การสั่งประหารขุนนางและพระญาติคนสำคัญในท้ายที่สุดนั่นเอง หากแต่ในความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์นั้น กษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ทรงต้องการประกาศสงครามกับฝรั่งเศสอยู่แล้วล่ะครับ เพราะว่าราชสำนักฝรั่งเศสให้การสนับสนุนพวกเวลส์และสก็อตในการทำศึกต่อต้านอังกฤษมาตั้้งแต่รัชกาลก่อนแล้ว จึงทำให้เมื่อกษัตริย์เฮนรี่ทรงครองบัลลังก์แล้วก็ทรงประกาศสงครามจะล้างแค้นกับฝรั่งเศสทันที อ่อ แล้วก็แน่นอนว่า ไอ้เรื่องที่เจ้าฟ้าชายแห่งฝรั่งเศสส่งลูกเทนนิสมาให้นั้น ก็ไม่เป็นเรื่องจริงครับ แต่เป็นเรื่องที่เชคสเปียรส์แต่งขึ้นมาเองต่างหาก
2. แน่นอนว่าภาพของเจ้าชายฮัลหรือกษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ในฉบับเชคสเปียร์สนั้นบอกว่า Henry V พระองค์ทรงเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญและไม่สนใจราชการ แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์กลับบอกว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าชายผู้ทรงอำนาจที่ได้ขึ้นสำเร็จราชการมาตั้งแต่ปลายรัชสมัยของพระบิดาแล้วต่างหากล่ะครับ ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องเฮนี่ที่ 5 ทั้งสามฉบับที่ผ่านมาก็ล้วนแต่นำเสนอภาพแนวเดียวกันนี้มาโดยตลอด และมิจดเองก็รักษาภาพนี้เอาไว้ในภาพยนตร์นี้ด้วยเช่นกัน
3. ตัวละครสำคัญที่เป็นพระอนุชาและสหายรักของกษัตริย์เฮนรี่อย่างเจ้าชายโทมัส และ “เซอร์จอห์น ฟอลสตาฟฟ์” (Sir John Falstaff) นั้นเป็นตัวละครสมมุติที่มิจดอ้างอิงมาจากฉบับวรรณกรรมของเชคสเปียรส์อีกทีนั่นล่ะครับ โดยเจ้าชายโทมัสถูกมิจดดัดแปลงมาจาก “ดยุคโทมัส บิวฟอร์ทแห่งเอ็กสเตอร์” (Duke Thomas Beaufort of Exeter) ซึ่งเป็นพระญาติคนสนิทของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ที่มีบทบาทในสงครามฝรั่งเศส และยังมีบทในฉบับวรรณกรรมด้วย ส่วนฟอลสตาฟฟ์นั้น เขาป่วยตายไปตั้งแต่ก่อนกษัตริย์เฮนรี่จะประกาศสงครามแล้วครับ ไม่ได้มีชีวิตอยู่มานำทัพไปรบศึกฝรั่งเศสอย่างในฉบับของมิจดแต่อย่างใด
4. ส่วนฉากการประหารพระญาติและขุนนางคนสำคัญทั้งสองนั้น จริงๆมีสามคนครับ และสาเหตุที่ถูกประหารนั้นมิใช่ถูกใส่ไคล้ว่าฝักใฝ่ฝรั่งเศสอย่างในภาพยนตร์ของมิจด แต่ว่าขุนนางทั้งสามฝักใฝ่ฝรั่งเศสจริงๆครับ โดยในฉบับวรรณกรรมยังบอกอีกว่า เมื่อทั้งสามถูกองค์กษัตริย์จับได้แล้ว ก็ชักกริชออกมาหมายปลงพระชนม์เดี๋ยวนั้นเลย แต่ว่าถูกเหล่าขุนนางและองครักษ์สกัดห้ามไว้ได้ทันการณ์ ซึ่งอีตามิจดก็จัดการแต่งเรื่องใหม่ให้มีมือสังหารต่างหากคนนึง และขุนนางทั้งสองก็ถูกใส่ความให้ต้องโทษประหารนั่นล่ะครับ
5. เจ้าฟ้าชายแห่งฝรั่งเศสทรงพระนามจริงว่า “หลุยส์” ครับ แต่พระองค์มิได้นำทัพมารบกับอังกฤษในศึกที่อาร์แซงกูรต์แต่อย่างใด และพระองค์ก็ยังทรงสิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคบิด (ท้องร่วง) ในปีที่เกิดสงครามที่อาร์แซงกูรต์ด้วย แต่เชคสเปียรส์ได้แต่งเรื่องเสียใหม่ว่า ไม่เพียงแต่เจ้าฟ้าชายผู้นี้จะทรงมีอิทธิพลเหนือพระบิดาที่ชราแล้วเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงทำการท้าทายอังกฤษมาตั้งแต่ต้นด้วยการส่งลูกเทนนิสไปท้ารบ แล้วจากนั้นก็ยังทรงนำทัพออกรบในศึกที่อาร์แซงกูรต์ด้วยพระองค์เอง จนสิ้นพระชนม์ในการรบอย่างห้าวหาญด้วย
Silmido (2003) เกณฑ์เจ้าพ่อไปเป็นทหาร
Hansan Rising Dragon (2022) ฮันซัน แม่ทัพมังกร
...โปรดรอสักครู่...