ดูหนังใหม่ 2024 หนังออนไลน์ ดูหนังฟรี HD หนังเต็มเรื่อง Netflix

ดูหนัง Oceans Twelve (2004) 12 มงกุฎ ปล้นสุดโลก

เรื่องย่อ

สามปีมาแล้วนับแต่ แดนนี่ โอเชียน (จอร์จ คลูนีย์) และลูกทีม  Oceans Twelve นำโดยผู้ได้รับการคัดสรรอย่าง รัสตี้ ไรอัน (แบรด พิตต์), มือกาวอนาคตไกล ไลนัส คอลด์เวล (แมตต์ เดมอน), ผู้ชำนาญงานระเบิด แบชเชอร์ ทาร์ (ดอน ชีเดล) และมืองัดแงะตู้นิรภัย แฟรงค์ แคตตัน (เบอร์นีย์ แมค) ได้ร่วมกันปล้นอย่างกล้าได้กล้าเสียและได้รับผลตอบแทนอย่างงามที่สุดในประวัติศาสตร์ ในการโจรกรรมนายทุนไร้หัวใจ เทอรี่ เบเนดิค (แอนดี้ การ์เซีย) จนเงินเกลี้ยงตู้นิรภัยที่ไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้ของเขาในลาสเวกัส หลังจากการแบ่งสรรปันส่วนเงินจำนวน 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ละคนของกลุ่มโอเชียน อีเลเว่น อันฉาวโฉ่ ได้พยายามที่จะกลับเนื้อกลับตัว ใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำตัวตามกฎหมาย…แต่นั่นได้พิสูจน์ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับ เทสส์ (จูเลีย โรเบิร์ตส) ภรรยาผู้คับแค้นของแดนนี่

ผู้กำกับ

• Steven Soderbergh

บริษัท ค่ายหนัง

• Village Roadshow Pictures
• Jerry Weintraub Productions
• Section Eight Productions

นักแสดง

• George Clooney
• Brad Pitt
• Matt Damon
• Catherine Zeta-Jones
• Andy García
• Don Cheadle
• Bernie Mac
• Julia Roberts
• Casey Affleck
• Scott Caan
• Vincent Cassel
• Eddie Jemison
• Carl Reiner
• Elliott Gould

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

หมื่นทิพ

ภาคนี้ก็ต่อจากภาคก่อนครับ 3 ปีต่อมาหลังจากกลุ่ม  Oceans Twelve โอเชี่ยนส อีเลฟเว่น ไปปล้นคาสิโนของ เทอร์รี่ เบเนดิกต์ (Andy Garcia) ต่างคนก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตกัน แล้วที่นี้พี่เทอร์รี่แกเกิดได้เบาะแสของพวกเขา เลยตามไปหาจนครบทุกคน พร้อมสั่งให้กลุ่มโอเชี่ยนส รีบไปหาเงินมาใช้คืนพร้อมดอกเบี้ย ไม่งั้นได้ฝังศพตัวเองแหงมๆ ทำให้พวกเขาต้องกลับมาอีกครั้งครับ กับงานจารกรรมครั้งใหม่ในต่างแดนเพื่อปลดหนี้ภาคนี้แตกต่างจากภาคก่อน และผมก็ไม่แปลกใจเลยครับ ที่ภาคนี้คนจะไม่ชอบ … นั่นก็เพราะนี่เป็นหนังแนว อย่าหาว่าผมกวนทีนนะครับ เพราะผมรู้ตัวว่าใช้คำนี้บ่อย คำว่า “หนังแนว” เนี่ย แต่มันจำกัดความได้ชัดที่สุดแล้วครับ ก็ถ้าชอบก็จะชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบเนี่ย ให้ผมอธิบายหรือชักแม่น้ำทั้งห้า คนก็ไม่มีทางชอบอยู่ดีน่ะ

หนังภาคนี้ไม่ได้เน้นที่การโจรกรรมอีกแล้วนะครับ มันจะเน้นตรงบทพุดที่ค่อนข้างคมและแฝงมุขเอาไว้เยอะมาก (และพอถึงตรงนี้ จะต้องมีคนคิดครับ ว่า “แฝงตรงไหนวะ บทพูดก็โคตรธรรมดา”) ดังนั้นผมจะพูดในฐานะคนชอบก็แล้วกันนะครับ ว่า มันสนุก บทพูดลื่น การเดินเรื่องฉับไว และอาจจะไวเกินไปจนบางคนตามไม่ทันเลยแหละครับ แต่ต้องเข้าใจฮะ แค่นี้หนังก็สองชั่วโมงเข้าไปแล้ว ขืนต้องบรรยายรายละเอียด เห็นทีว่างานนี้คงต้องยาวซักสองชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างต่ำ ดาราดีครับ แม้ภาคนี้พี่ George Clooney ของผมบทจะน้อยไปหน่อย แต่พี่ Brad Pitt กับ Matt Damon นี่มีอะไรดีๆ แทรกอยู่ไม่เบา รวมไปถึงสารพัดดารารับเชิญที่ถ้าใครรู้จักนี่คงสนุกล่ะครับ ผมงี้ดูเพลินไปเลย เพราะยอมรับว่าสนุกเพิ่มก็ไอ้ตรงเรื่องหยุมหยิมแบบนี้น่ะ

แต่จริงครับ นี่เป็นหนังแนว ดังนั้น ใครไม่ชอบหนังที่มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ ก็อย่าดูเลยครับ นั่นคือ หนังที่มีแต่พูดๆๆๆ, มีการเดินเรื่องที่ไวมากไป, มีความซับซ้อนเยอะเกินเหตุ, ไม่อยากใช้สมองเยอะ เนี่ยครับ ถ้าไม่ชอบอะไรแบบนี้ เรื่องนี้คงไม่เหมาะครับ แต่ถ้าใครชอบหนังสไตล์นี้ ประมาณพี่ Quentin Tarantino น่ะครับ รวมไปถึงพวก Out of Sight ของพี่ Steven Soderbergh ผู้กำกับเรื่องนี้น่ะนะครับ ผมว่าไม่น่าจะผิดหวังนะครับ เท่าที่ฟังมาจากตามบอร์ดหลายคนไม่ค่อยชอบกัน แต่น่าประหลาดเหลือใจที่เพื่อนๆ ผมแทบทุกคนมันชอบกันหมดเลยครับ ตอนแรกนึกว่าจะมีคนเห็นต่างกันบ้างผมจะได้ถามว่ารู้สึกยังไง ไม่ชอบเพราะอะไรเหรอ แต่มันดันคอเดียวกันหมดเลยครับ ผมเลยต้องมานั่งเดาเนี่ยว่าทำไมอีกหลายคนไม่ชอบกัน ก็พอเข้าใจครับว่าหนังมันเดินเรื่องไวมาก และบทพูดมันเยอะ ฉากการโจรกรรมก็ไม่มากเท่าตอนแรก พูดให้ง่ายคือ แอ๊คชั่นน้อยทำให้คนดูที่คาดหวังความมันส์แบบภาคแรกพลอยเสียอารมณ์กันไปหมดเลย ซึ่งส่วนนี้ก็คงมาจากความคาดหวังน่ะแหละครับ ภาคแรกมันสนุกแบบจารกรรมบวกเท่ห์ แต่ภาคนี้มันสนุกแบบพี่ Steven Soderbergh แท้ๆ ไม่ค่อยเอาใจตลาดเท่าไหร่ ความไม่ชอบก็เลยย่อมจะมีโผล่ขึ้นมาแบบนี้เอง ซึ่งผมก็พอเข้าใจครับ

ส่วนผมกับเพื่อนอีกฝูงกว่าๆ ที่ดันคอเดียวกันมันก็ชอบกัน เพราะหนังมันรวมดาราเพียบ ดนตรีดี สนุกกับบทพูดในเรื่อง เพราะมันมีอะไรแทรก ยอกย้อน กวนตีนกันตลอด มุขก็เก็ทกันอย่างไอ้มุขอายุ 50 ของพี่ George ก็ยังเอามาอำกันในกลุ่มเลยครับ และเรื่องมันก็ซับซ้อนดี แต่พวกเราก็ตามทันด้วยเลยรู้สึกมันส์ตลอด Oceans Twelve  เพราะมันเข้าทางน่ะครับ สรุปว่านี่เป็นหนังแนวแท้ๆ ครับ สรุปว่าผมชอบครับ คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มาก จะว่าไปหนังมันเป็นแนวโจรกรรมที่ลึกกว่าภาคแรกไปอีกขั้นนะครับ ภาคแรกมันเป็นเรื่องคนกลุ่มนึงโจรกรรม แต่ภาคนี้มันค่อยๆ พาเราลงลึกไปในโลกของพวกนักโจรกรรม ซึ่งทำให้เห็นว่าคนพวกนี้ไม่ได้เอาแต่ขโมยเท่านั้น แต่มันยังมีอย่างอื่นเช่นการวางแผน การขับเคี่ยวกับคู่แข่งอะไรยังเงี้ย ซึ่งหนังที่มีเนื้อหาสไตล์นี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่นัก และดนตรีก็ยอดมากๆ ดีไม่ดีเฉียบกว่าภาคก่อนด้วยนะครับ จังหวะมันส์และใส่กันมาแบบสะใจไปเลย

classicsoncall

7/10

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่นักวิจารณ์หลายคนก็คิดว่ามี ฉันคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามจะทะเยอทะยานเกินจริงโดยพยายามจะเอาชนะภาพยนตร์เรื่องก่อนอย่าง Ocean’s Eleven ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากกลเม็ดที่ใช้อุปกรณ์ไฮดรอลิกใต้น้ำยกระดับอาคารขึ้นสามนิ้ว ฉันไม่สามารถติดตามความคืบหน้าของการผจญภัยครั้งนั้นได้เลย ไม่ต้องพูดถึงว่าจะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ แต่ความกล้าบ้าบิ่นของไอเดียนี้ก็ดูน่าสนใจทีเดียว แต่เอาเถอะ ไอเดียของ Linus Caldwell (รับบทโดย Matt Damon) สำหรับการ “แอบดูและมีความสุข” นั้นช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ใครล่ะจะคิดไอเดียให้ Julia Roberts เลียนแบบ Julia Roberts ในภาพยนตร์ได้ มันแทบจะดีพอๆ กับที่ Bruce Campbell รับบทเป็น Elvis Presley ซึ่งเลียนแบบ Elvis Presley ในภาพยนตร์เรื่อง “Bubba Ho-Tep” เมื่อปี 2002 ลองห่อหัวใจของคุณไว้รอบๆ นั่นดูสิ จูเลีย โรเบิร์ตส์เป็นผู้ให้หมายเลข ’12’ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นการรวมตัวของแก๊งค์คนโง่จากภาพยนตร์เรื่องแรก ดีใจที่ดอน ชีเดิลได้รับเครดิตเป็นของตัวเองสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ในครั้งนี้ ฉันยอมรับว่ามีเรื่องให้สับสนมากมายในเรื่องราวหากคุณไม่ได้ใส่ใจ ดังนั้นคุณต้องติดตามภาพตลอดทั้งเรื่อง ฉากที่น่าสนใจ ได้แก่ การพบกันของเทสส์ (โรเบิร์ตส์) กับบรูซ วิลลิส (ในบทบาทของเขาเอง) และวินเซนต์ คาสเซลในบทนักเต้นเบรกแดนซ์แบบสโลว์โมชั่นที่กระโดดด้วยเลเซอร์ ในท้ายที่สุด การปล้นสะดมกลับกลายเป็นเรื่องรองเมื่อเทียบกับความบ้าระห่ำที่เกี่ยวข้องในทั้งหมดนี้ ไม่มีสิ่งใดน่าเชื่อถือเลย แต่อะไรใน “Ocean’s Eleven” จะน่าเชื่อถือเมื่อคุณพิจารณาอย่างถี่ถ้วน? ปล่อยสมองของคุณไว้ที่ประตูและเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์เพื่อมิตรภาพและความสนุกสนานที่เกี่ยวข้องกับลูกเรือ Ocean วิธีนั้นง่ายกว่า

Sweet_Ophelia

7/10

เมื่อสามปีก่อน แดนนี่ โอเชียน (คลูนีย์) Oceans Twelve  และทีมของเขาขโมยเงิน 160 ล้านเหรียญจากเทอร์รี่ เบเนดิกต์ (การ์เซีย) ตอนนี้เบเนดิกต์ต้องการเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย ดังนั้น โอเชียนและทีมของเขาจึงต้องรีบหาเงินที่พวกเขาเป็นหนี้อยู่ พวกเขาร้อนเกินกว่าจะทำงานในอเมริกา พวกเขาจึงมุ่งเป้าไปที่อัมสเตอร์ดัม ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่รัสตี้ ไรอัน (พิตต์) มีอดีตคนรัก (ซีตา-โจนส์) ซึ่งบังเอิญเป็นหัวหน้าตำรวจและกำลังตามล่าพวกเขาอยู่ แต่เบเนดิกต์และตำรวจสาวเซ็กซี่ อิซาเบล ลาฮิรี (ซีตา-โจนส์) ไม่ใช่ปัญหาเดียวของทีม โจรอีกคนที่ใช้ชื่อเล่นว่า “ไนท์ฟ็อกซ์” (วินเซนต์ คาสเซล) กระตือรือร้นที่จะต่อสู้กับโอเชียนและทีมของเขา เพื่อตัดสินว่าใครคือโจรที่ดีที่สุด (หรือโจรหลายคน)

และนี่คือรายชื่อ 12 ของโอเชียน ภาพยนตร์เรื่องนี้ขาดความเฉียบขาดในแง่ของไหวพริบ รูปลักษณ์ โครงเรื่อง… และแทบทุกอย่างเมื่อเทียบกับ Ocean’s 11 ฉบับดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ต้องชี้แจงให้ชัดเจน สิ่งหนึ่งที่นักแสดงทุกคนยอดเยี่ยมมาก น่าทึ่งจริงๆ มีเคมีที่ชัดเจนและหายากระหว่างทุกคน แม้แต่แคเธอรีนา ซีตา-โจนส์ ผู้มาใหม่ในภาพยนตร์ของโซเดอร์เบิร์ก และเป็นเรื่องยากมากที่จะรวมดาราดังจำนวนมากไว้ในภาพยนตร์โดยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ถูกบั่นทอนด้วยดาราดังมากเกินไปและขาดอย่างอื่นมากพอ และภาพยนตร์เหล่านี้มีดาราดังฮอลลีวูดมากมายอยู่ในนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นจูเลีย โรเบิร์ตส์ จอร์จ คลูนีย์ แบรด พิตต์ แมตต์ เดมอน แคเธอรีนา ซีตา-โจนส์ เบอร์นี แม็ค แอนดี้ การ์เซีย ดอน ชีเดิล… แค่เอ่ยชื่อดาราดังที่สุดเท่านั้น และเมื่อได้ชม Ocean’s 11 คุณจะบอกได้ว่าทีมงานสนุกกับการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าเสียดายที่ผู้ชมอาจไม่ได้รับความเพลิดเพลินเท่ากับนักแสดง….

หากคุณเป็นเหมือนฉันที่ประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีสไตล์เก๋ไก๋และมีชีวิตชีวา Ocean’s 12 จะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องแรกนั้น “มีระดับ” มาก ทุกช็อต ทุกเทค ทุกมุมกล้องล้วนแต่มีความคมชัด ชัดเจน และมีสไตล์มาก อย่างไรก็ตาม ในภาพยนตร์เรื่องนี้ โซเดอร์เบิร์กตัดสินใจใช้เทคนิค “กล้องสั่น” ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันสำหรับบางฉาก ฉันเข้าใจว่าทำไม ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องแรก ทีมงานไม่มีเวลาที่จะวางแผนเพื่อทำให้ “ดึงดูด” ของพวกเขาสมบูรณ์แบบ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทีมงานเร่งรีบเพื่อให้ทันกำหนดส่งของเบเนดิกต์ และฉันเดาว่าโซเดอร์เบิร์กต้องการถ่ายทอดความหุนหันพลันแล่นและความสับสนนั้น แต่สิ่งนี้กลับทำลายภาพยนตร์ เขาควรจะยึดมั่นกับแนวคิดเดิมของเขาจริงๆ ที่จะให้ทุกอย่างดูเก๋ไก๋ กล้าหาญ และสะอาดตา นอกจากนี้ ยังสับสนเมื่อภาพยนตร์สลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบันเพื่ออธิบายว่าทีมงานทำเรื่องปล้นได้อย่างไร การเปลี่ยนจากฉากที่กล้องสั่นเป็นฉากที่กล้องสั่นไหวดูจะยุ่งยากและน่าเกลียด

ประการที่สอง เสียงหัวเราะในหนังภาค 12 มีน้อยลง และบทก็น่าเบื่อกว่า Ocean’s 11 มีไหวพริบเฉียบแหลมและมีบทพูดที่น่าจดจำมากมาย Ocean’s 12 ต้องลดระดับลงจนต้องใส่มุกเกี่ยวกับอายุให้กับคลูนีย์ “ฉันดูเหมือนอายุ 50 ไหม” พล็อตเรื่องคาดเดาได้ ตั้งแต่การ “เลียนแบบ” ของจูเลีย โรเบิร์ต ไปจนถึงการหลบหนีครั้งยิ่งใหญ่ของทีมงาน ทั้งหมดนี้ตรงไปตรงมามากและสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และการสรุป “การดึง” นั้นค่อนข้างน่าสับสน กาลอดีต (กล้องสั่นไหวอีกแล้ว!) ฉันบอกอะไรไม่ได้มากนัก แต่ความคิดเห็นส่วนตัวของฉันคือคำอธิบายว่าทีมขโมยของได้อย่างไรนั้นค่อนข้างน่าสับสนและเป็นช่วงเวลาที่ “ห๊ะ” นิดหน่อย  Oceans Twelve ซึ่งคุณจะต้องพูดคุยกับคนอื่นๆ ที่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจทุกอย่างจริงๆ โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าผิดหวัง ไปดูเถอะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง แม้จะดูเพื่อเอาใจแมตต์ เดมอน แบรด พิตต์ และจอร์จ คลูนีย์ แต่ไม่ต้องคาดหวังมากเกินไป เพราะเมื่อถึงช่วงเครดิต คุณจะรู้สึกเหมือนโดนหลอกอย่างบอกไม่ถูก Ocean’s 11 เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ Ocean’s 12 กลับทำให้คุณคิดถึงภาคแรก

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

This City Is Ours (2025)

Karma (2025) อุบัติกรรม

Trespass (2011) ปล้นแหวกนรก

Motorway (2012) 2 สิงห์ซิ่งเดือด

Pineapple Express (2008) วุ่นเเล้วตู จู่ๆก็โดนล่า