เรื่องย่อ : OtherLife (2017) อะไรจริงอะไรไม่จริง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี NungHD หนังเต็มเรื่อง พากย์ไทย ซับไทย ดูหนังใหม่ 2024
ล่าเรื่องของเรน น้องชายเธอจาเร็ดถูกหินกระแทกหัวตอนดำน้ำ ทำให้ตอนนี้สมองเขาตาย เรนพยายามช่วยจาเร็ดจากอาการดังกล่าว เธอคิดค้นซอฟต์แวร์ชีวภาพ (Biological Software)ขึ้นมา หวังว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนความทรงจำของจาเร็ด และช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาได้ ซอฟต์แวร์ชีวภาพ (Biological Software) ที่ว่านี้ เรนเขียนโปรแกรมขึ้นมาเอง OtherLife พร้อมจดสิทธิบัตรเรียบร้อย เธอและแซมร่วมกันเปิดบริษัทขึ้นมาชื่อว่าเพื่อเป็นเทรนด์ใหม่ในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ซอฟต์แวร์ชีวภาพจะช่วยให้มนุษย์มีประสบการณ์และความทรงจำที่คิดว่าตัวเองไม่มีโอกาสที่จะได้รับ ว่าง่ายๆก็คือใครที่ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ยิ่งกว่า Virtual Realirty (VR) เพราะว่าจะได้ไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆเลย โดยเวลาในกับเวลาจริงของโลกจะต่างกัน Otherlife 1 ปี เท่ากับเวลาในโลกจริง 1 นาทีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ แซมซึ่งน่าจะมีหัวทางด้านธุรกิจ เขาสนใจที่จะใช้ซอฟต์แวร์ชีวภาพในด้านอื่นมากกว่า เช่น ด้านกุมขังนักโทษในคุกเสมือน (virtual confinement) แต่เรนไม่เห็นด้วย แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เรนต้องไปติดอยู่ในคุกเสมือนนั้น
ถือเป็นหนังไซไฟที่น่าสนใจพอดูครับ แต่ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นแนวไซไฟแบบดราม่าแล้วก็ผสมความระทึกขวัญลงไป ไม่ได้เน้นแอ็กชัน แม้จะมีช่วงให้ลุ้นระทึกอยู่พอสมควรก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีฉากบู๊มันส์ๆ อะไรแบบนั้น เรน อมารี่ (Jessica De Gouw) เป็นคนคิดค้นยาที่ชื่อ OtherLife ขึ้นมาครับ รูปแบบคือ มันจะเป็นยาที่ใช้หยอดตา ซึ่งพอหยอดแล้วยาจะทำการกระตุ้นให้ตา สมอง และการรับรู้ของเราเห็นภาพ และรู้สึกตาม “หัวข้อ” ของยาหยดนั้น มันจะคล้ายๆ สวมแว่น VR แล้วเราก็รับสัมผัสประสบการณ์ตามแต่เรื่องที่มันนำเสนอน่ะครับ เช่น ถ้าเป็นเรื่องดำน้ำกลางมหาสมุทร พอหยอดปุ๊บ เราก็จะรู้สึกเหมือนกำลังดำน้ำ เห็นภาพรอบตัวเป็นว่าเรากำลังดำน้ำ อีกทั้งยังรู้สึกว่าเราเคลื่อนไหวจริงๆ ทั้งที่จริงๆ เราไม่ได้ขยับไปไหน แค่นอนอยู่กับที่ บริษัทยาที่คิดจะขายยาตัวนี้ก็หมายมั่นล่ะครับว่ามันจะต้องทำเงินแน่ๆ เพราะมันเปิดประสบการณ์ให้กับผู้ชม ต้องมีคนพร้อมซื้อหามาใช้ มาลิ้มลองแน่นอน
แต่ก็ตามสูตรครับ ยาที่ว่านี้มันไม่ได้สมบูรณ์หรอก มันจะมีจุดบอดจุดให้เรนต้องแก้ไขอยู่ตลอด จนเธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ายานี้ควรจะออกวางตลาดดีหรือไม่ ซึ่งในหนังมันยังมีเหตุมีเรื่องมากกว่าที่ผมเล่าไปครับ เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้สปอยล์ ผมขอเล่าแค่นี้แล้วกัน ตัวหนังถือว่าเวิร์กในระดับหนึ่งครับ ดูได้เรื่อยๆ ที่ชอบอย่างแรกคือโทนหนังที่ดูอึมครึม ดูอนาคตๆ แล้วก็แฝงความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเอาไว้ ดูเป็นบรรยากาศที่บิ้วอารมณ์ให้เข้ากับเรื่องราวได้ดี จุดชอบต่อมาคือการเดินเรื่องที่คาดเดาได้ยากนิดนึง ตอนแรกเปิดมาเราก็นึกว่าจะเกี่ยวกับการที่เรนต้องหาทางแก้ยาตัวนี้ให้ทันกำหนด แล้วก็นึกว่าจะมีเรื่องระทึกอย่างเช่น มีคนต้องการปกปิดขุดบกพร่องของยา แล้วก็มาคุกคามชีวิตเธอ แต่เอาเข้าจริงเรื่องกลับไปอีกทาง
ตอนกลางๆ ก็ถือว่าน่าสนใจดีครับ อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องมันจะไปยังไงต่อ ซึ่งถ้าพูดถึงทิศทางในครึ่งหลังแล้ว จริงๆ เป็นทิศทางที่น่าสนใจครับ แต่การนำเสนอมันอาจพร่องความเร้าใจไปหน่อย ถ้าปรุงให้ัลุ้นกว่านี้ก็คงดี ดาราในเรื่องก็หน้าไม่คุ้นนัก แต่ก็แสดงกันได้พอเหมาะครับ De Gouw นางเอกของเรื่องดูเหมือน Jaimie Alexander ตอนเล่น Blindspot มากๆ ซึ่งเธอก็แสดงดีครับ ดูมีเสน่ห์และมีอะไรเก็บไว้ในใจเยอะอยู่ งานภาพถือว่าดีเลยครับ พวกซีนภาพลานกว้าง ภูเขา หรือผาชัน เลือกมุมกล้องมาได้สวยมาก ดูแล้วเหมือนเราได้สัมผัสกับประสบการณ์ในภาพเหล่านั้นจริงๆ เลย OtherLife ก็ขอชมตากล้อง Dan Freene ที่จับภาพมาได้แบบกำลังดีจริงๆ สาระดีๆ ของหนังก็คือการสอนให้เรารู้จักปล่อยวางอดีตครับ บางเรื่องที่ผ่านมาแล้วมันแก้อะไรไม่ได้ แล้วหากยังไปปล่อยตัวให้จมอยู่กับมัน ก็เท่ากับเราบั่นทอนช่วงเวลาปัจจุบันของเราไปด้วย ดังนั้นเราต้องหาทางก้าวให้ผ่าน ข้ามให้พ้น หรือถ้าจะมองอดีต ก็มองเพื่อเรียนรู้และเติบโต แต่อย่ามองเพื่อจองจำตนเอง หากเป็นคอหนังไซไฟก็ถือว่าน่าลองครับ หนังไม่เลว เพียงแต่อาจไม่ได้เด็ดอะไรมาก และระหว่างดูผมก็คิดนะว่าถ้ามียาแบบนี้ออกมาจริงๆ เราจะกล้าใช้ไหมเนี่ย เพราะดูแล้วมันอันตราย และหากเกิดผิดพลาดนี่เราอาจติดอบู่กับภาพนั้นๆ ไปตลอดกาลก็ได้… น่ากลัวเหมือนกันแฮะ ^_^
เรน อมารี (Jessica De Gouw จาก ) นักวิทยาศาสตร์ที่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีสร้างชีวิตเสมือนจริงได้ ที่เราสามารถผจญภัยได้ตามใจอยากและใช้เวลาในชีวิตจริงน้อยมาก เช่น เวลาจริง1นาที เท่ากับโลกเสมือนคือ1ปี แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อโปรแกรมยังไม่สมบูรณ์ในขณะที่กำหนดเปิดใกล้เข้ามาทุกที แถมเจตนารมณ์ในการสร้างOtherlifeของเรนและแซม พาร์ทเนอร์ของเธอ ก็ต่างกันสิ้นเชิง .. เรนจะนำไปช่วยชีวิตน้องชายของตนที่นอนเป็นเจ้าชายนิทรา ในขณะที่แซมคิดจะขายมันให้รัฐบาลที่ต้องการนำไปใช้เป็นคุกเสมือนไว้ลงโทษผู้กระทำผิด ถ้าในแง่ของความเป็นไซไฟ ไอเดียด้านเทคโนโลยีนั้นค่อนข้างจำเจกับการสร้างโลกเสมือน แต่หนังหยิบไอเดียนี้ไปขยายต่อได้น่าสนใจเลยทีเดียว
นอกจากการตอกย้ำว่าเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย(Netflixดูจะถนัดกับแนวนี้แฮะ ฮ่าๆ นี่มองว่าสามารถเป็นตอนนึงของ Black Mirror ได้เลย ฮ่าๆ )หนังยังเล่าปมดราม่าของเรนได้ลึกซึ้งและสะเทือนใจ อีกทั้งเราชอบไอเดียที่จะทำให้มันเป็นคุกเสมือน และเรนต่อต้านด้วยการย้ำเจตนาของโครงการ มีไว้เพื่อขยายจินตนาการ ผจญภัยในโลกกว้าง ไม่ใช่เอาไว้เพื่อกักขังในที่แคบ” และหนังก็ขยายให้เราเห็นภาพและเล่าออกมาได้ระทึกขวัญพอตัว ลุ้นเอาใจช่วยกันยาวๆ แถมพลิกล็อคโดนหลอกไปอีก ดังนั้นแม้พลอตหนังรวมๆจะดูซ้ำซากแต่เราก็ชื่นชนการต่อยอดไอเดียที่ทำออกมาได้น่าสนใจ ยังสามารถทำให้เราจดจ่ออยู่กับหนังได้ตลอดเรื่อง
หนังน้ำดีที่ดูจบแล้วก็ต้องยกนิ้วให้ในไอเดียที่สร้างสรรค์และสร้างออกมาได้น่าสนใจดี ตัวหนังจะมีการพาเราไปสู่โลกเสมือน ความฝัน ประสบการณ์เสมือนจริง หรือ virtual reality แล้วแต่ใครจะเรียกอะไรก็ตามสะดวก แล้วหนังจะพาคนดูลดเลี้ยวอยู่ในนั้น จนสับสนว่า OtherLife นี่อยู่ในเรื่องจริงหรือในโลกเสมือ อันไหนจริง อันไหนหลอก สรุปว่าหลอกหมดเลย หรือแค่หลอกบางส่วน หนังมีส่วนละม้ายคล้าย inception นิดๆ แต่ไม่ได้ลึกและสลับซับซ้อนลงไปหลายไดเมนชั่นเหมือน Inception พูดง่ายๆคือ มีความดูง่ายและยังมีความแมสมากกว่า inception เยอะ เนื้อเรื่องคร่าวๆคือนางเอกคิดค้นยาหยอดตาที่หยอดแล้วจะสามารถพาคนนั้นๆ ไปสู่โลกเสมือนที่โปรแกรมไว้ในแต่ละหลอดได้ โดยยาหยอดตาแต่ละหลอดก็ผ่านการคิด โปรแกรมมิ่ง และทดสอบมาแล้วว่าใช้งานได้ ประสบการณ์เสมือนก็มีตั้งแต่ ไปเล่นเสิรฟ์ ไปเล่นสกีบนภูเขา หรืออะไรที่มันเหนือจริงที่คนธรรมดา (คนจนนั่นแหละ) ทำไม่ได้ ซึ่งพอดูไปๆหนังก็ชักจะวุ่นเพราะมีการเอาไปใช้ผิดวิธี จนกลายเป็นไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนโลกเสมือน ดูเรื่องนี้จบแล้วไม่ต้องพูดอะไร แต่เราอยากให้ดูหนังสั้นของไทยที่ชื่อ Can The Series ต่ออีกเรื่อง แล้วบอกผมทีว่า คุณคิดเหมือนผมมั๊ย (Search ใน youtube แล้วเจอเลย) ปล. ผมดู Can ก่อน แล้วชอบมากในไอเดียโลกเสมือนที่อัดใส่กระป๋อง พอเปิดกระป๋องแล้วสูดดมจะสามารถพาไปสู่ประสบการณ์นั้นๆได้ ดูแล้วเหมือนมีกลิ่นอาย inspiration มาแบบเต็มๆ ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี แต่รู้สึกว่า…..ผิดหวังเล็กน้อย
...โปรดรอสักครู่...