เรื่องย่อ : The Lunchbox (2013) เมนูต้องมนต์รัก ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี NungHD หนังเต็มเรื่อง พากย์ไทย ซับไทย ดูหนังใหม่ 2024
The Lunchbox คือเรื่องราว มิตรภาพอันน่าอัศจรรย์ระหว่าง เฟอร์นานเดส นักบัญชีที่ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายและไม่ใส ่ใจใครหลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต วันหนึ่งเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจเมื่อ ได้รับปิ่นโตที่บรรจุอาหารกลางวันเลิศรส เจ้าของปิ่นโตนั้นคือคือ อิลา หญิงสาวผู้ถูกสามีหมางเมินและพยายามที่จะเ รียกร้องความสนใจด้วยการทำอาหารใส่ปิ่นโตเ พื่อเอาใจสามี แต่กลายเป็นว่าข้าวกลางวันถูกส่งไปให้ชายห นุ่มผิดคน อิลา ทำอาหารให้เฟอร์นานเดสอีกครั้งในวันต่อมาเ พื่อขอบคุณที่คืนปิ่นโตให้ และเขียนจดหมายถึงเขา จากนั้นทั้งคู่ก็แลกเปลี่ยนจดหมายถึงกันผ่ านปิ่นโตอาหาร นำมาซึ่งเรื่องราวสุดโรแมนติก เสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ที่ได้รั บการพูดถึงอย่างมากก็คือสามารถทำให้คุณดูย ิ้มและซึ้งไปกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของค นทั้งคู่ และคอยลุ้นเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเขา จะได้เจอกันตอนไหน
เรียบง่ายแต่งดงามกับงานชิ้นมาเตอร์พีซของดาวผู้ลาลับ อิรฟาน ข่าน หากจะพูดถึงนักแสดงจากแดนภารตะยุคปัจจุบัน The Lunchbox ชื่อแรกๆที่เราจะนึกได้หนึ่งคืออาเมียร์ ข่าน และอีกหนึ่งคือชารุค ข่าน แต่ตัวข้าพเจ้าเองกลับมีความชื่นชมและชื่นชอบนักแสดงอีกท่านนับจาก Slumdog Millionaire (2008) หลายๆคนอาจได้ผ่านตาบทบาทของเขาจาก Life Of Pi (2012) Jurassic World (2015) หรือ Inferno (2016) ซึ่งจริงๆตัวเองได้ผ่านตางานของชายคนนี้มาพอสมควรทั้งงานในฮอลลีวูดเช่นที่เอ่ยมา หรือจะเป็นงานจาก #บอลลีวูด บ้านเกิดของเขา และนับว่าเขาคือดาราเจ้าบทบาทได้อีกคนหนึ่งที่ฝีมือด้านการแสดงอยู่ในระดับยอดฝีมืออีกคน และงานจากบ้านเกิดของเขาที่เรียกว่าเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างและถึงพร้อมด้านคุณภาพทางภาพยนตร์ที่สุดในทุกๆด้าน งานที่ใครหลายๆคนได้ผ่านตา งานที่เรียบง่าย อบอุ่น แต่แฝงปรัชญาคมความคิดไว้ได้อย่างลึกซึ้งแทบทุกนาที #TheLunchbox
อิรฟาน ข่าน รับบทเป็นสาจัญ เฟอร์นันเดซ ชายวัยทองที่จ่อมจมอยู่กับอดีตหลังการสูญเสียภรรยา เขาคือคนที่หลีกหนีสังคม อมทุกข์ ไม่มีเพื่อน แปลกแยก ไร้มนุษยสัมพันธ์ ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้ม วันหนึ่งปิ่นโตจากบริการส่งอาหารกลางวันของอินเดียที่ว่ากันว่าไม่มีทางผิดพลาดในถุงสีเขียวมาถึงเขา แต่อาหารข้างในกลับแตกต่าง มันคืออาหารที่มาจากรสมือและเสน่ห์ปลายจวักที่ทำลงไปด้วยใจหวังจะส่งให้สามี เป็นปิ่นโตที่ส่งผิดมาจาก อิลา แม่บ้านที่เปลี่ยวเหงาหลังจากชีวิตคู่หลังแต่งงานเริ่มมาถึงจุดตีบตัน การสื่อสารทางจดหมายจึงเริ่มขึ้นจากปิ่นโตที่ส่งผิดและความสัมพันธ์ที่ไม่เห็นหน้าก็พัฒนาผ่านจดหมายที่ใส่ไว้ในปิ่นโต คุณเฟอร์นันเดซ คือคนที่ยอมเป็นคนแปลกแยกและโดดเดี่ยวหลังการสูญเสีย หากแต่เขามีวุฒิภาวะพอที่จะแนะนำแง่มุมการใช้ชีวิตให้กับแม่บ้านที่ไร้ที่พึ่งอย่างอิลา หนังให้แง่มุมที่คมคายในการใช้ชีวิตผ่านสังคมชนชั้นกลางในประเทศอินเดียที่ผู้ชายทำแต่งานทิ้งภรรยาไว้กับบ้าน ความเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิตในห้องแคบๆทำให้อิลาใช้เวลาในการใช้ใจในการทำอาหารเพื่อมัดใจสามี ผ่านการแนะนำของป้าเดชพันเดที่หนังฉลาดมากที่ไม่เผยหน้าตาให้มาแต่เสียงและอธิบายพื้นหลัง ในขณะเดียวกันคุณเฟอร์นันเดซคือคนที่ไร้ที่พึ่งทางใจกว่าแม้จะมีหน้าที่การงานที่ค่อนข้างมั่นคงแต่เขาต้องมองครอบครัวข้างบ้านนั่งทานข้าวด้วยกันแต่เขากลับต้องกินแกงถุงด้วยความโดดเดี่ยว ทั้งนี้ความโดดเดี่ยวของเขานั้นสืบเนื่องมาจากการปิดใจไม่ยอมรับคนอื่น จนกระทั่งมีเชค หนุ่มฝึกงานที่จะมาทำงานแทนเมื่อเขาเกษียณเข้ามาโดยแรกเริ่มเขาไม่ได้เปิดใจและกระนั้นเขายังมีวุฒิภาวะพอที่จะยอมรับเชคทีละน้อย
การสื่อสารทางจดหมายเล็กๆที่ไม่น่าจะมีอะไรหากแต่พัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมอันเนื่องจากความเปล่าเปลี่ยวของคนทั้งคู่ที่ถึงที่สุดยังลงเอยด้วยมโนธรรมในใจของคุณเฟอร์นันเดซ แต่ถึงอย่างนั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ทั้งคุณเฟอร์นันเดซกับอิลาเชื่อมสัมพันธ์กันทางจดหมายทั้งคู่ก็ได้ให้บทเรียนชีวิตและทำให้ชีวิตกลับมามีเป้ามายอีกครั้ง โดยเฉพาะคุณเฟอร์นันเดซที่เริ่มมีรอยยิ้มและเปิดใจรับคนอื่นจนกระทั่งไปเป็นญาติเจ้าบ่าวให้กับเชค บทหนังที่คมคายเต็มไปด้วยความหมายเฉกเช่นการตัดพ้อสังคมอินเดียที่ต้องแก่งแย่งกันกระทั่งหลุมฝังศพ #ผมยืนบนรถเมล์รถไฟมาทั้งชีวิตพอตอนตายก็ยังต้องยืน เรื่องการทำอะไรด้วยใจที่จะให้ผลเลิศอย่าง #ใครๆก็ทำอาหารได้แต่แบบนี้มันต้องร่ายเวทย์มนต์ มุมมองในการยึดติดกับอดีตที่เราเลือกจะอยู่กับมันหรือก้าวข้าม #ถ้าหากเราไม่เล่าเรื่องให้ใครสักคนฟังสุดท้ายเราก็จะลืมมันไป แต่สำหรับตัวเองแล้วฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากที่คุณเฟอร์นันเดซเล่าเรื่องที่เขาลืมของไว้ในห้องน้ำที่เรียกมันว่า #ความแก่ และมันคือการกระตุกคนดูให้รู้ว่าเวลาไม่เคยปราณีใครในการเดินไปข้างหน้าเพราะ #ไม่มีใครอยากซื้อล็อตเตอรี่ของเมื่อวาน
ทั้งหมดทั้งมวลมาด้วยความคมคายที่ไม่ได้บีบคั้นหรือพยายามที่จะคม กลับกลายเป็นว่าประโยคคมๆแง่มุมดีๆถูกนำเสนอได้อย่างเป็นธรรมชาติผ่านบทภาพยนตร์ที่ดูเหมือนธรรมดาแต่เฉียบแหลม และนั่นยังสื่อผ่านการแสดงที่แสนจะเป็นธรรมชาติของนักแสดงทั้ง นิมรัต กอร์ ในบทอิลา นาวาซุดดิน ชิคนิคกิ ในบทเชค ป้าเดชพันเดผู้มาแค่เสียง และแน่นอน อิรฟาน ข่าน ในบทคุณเฟอร์นันเดซผู้มีปมในใจอย่างใหญ่หลวง ชายวัยทองผู้เปลี่ยวเหงา เขามาในลุคของชายวัยทองชนชั้นกลางของอินเดียที่ไม่ได้ดูแลตัวเองนัก The Lunchbox เขาแสดงผ่านสีหน้าแววตาภาษากายที่มีพลังแม้กระทั่งยืนเหม่อมองอย่างเลื่อนลอยแต่ในสายตามีอะไรอยู่ในนั้นนับพัน พัฒนาการของตัวละครจากเริ่มแรกเป็นคนหลีกเร้นสังคมพัฒนามาแบบค่อยๆเปิดใจและมีความหวังในช่วงท้ายก่อนจะตระหนักรู้ได้ถึงสัจธรรมของชีวิต อิรฟาน ข่าน มอบการแสดงที่คนดูเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเขาคือคุณเฟอร์นันเดซ และมันคืองานชิ้นมาสเตอร์พีซที่เขามอบให้กับโลกภาพยนตร์ หนังที่มีคุณค่าทางอารมณ์ หนังที่งดงามแม้จะมาแบบนิ่งๆเรียบๆ หนังที่ให้แง่มุมความคิดและการตระหนักรู้ถึงชีวิตของมนุษย์ ปิ่นโตของอิลาอาจจะส่งผิดก็จริงแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันคุ้มค่าเกินบรรยาย เหมือนกับประโยคทองของหนังที่ว่า #บางครั้งรถไฟที่ผิดขบวนอาจจะนำพาไปสถานีที่ถูกต้อง แม้หนังจะไม่ส่งท้ายว่าทั้งอิลาและคุณเฟอร์นันเดซไปถึงสถานีที่ถูกต้องของพวกเขาหรือไม่ แต่เท่าที่ผ่านมาหนังได้มอบความอบอุ่น ลึกซึ้งและบทเรียนให้ทั้งคู่รวมถึงคนดูได้อย่างคุ้มค่าแล้ว
ถ้าหากนี่คืองานที่อิรฟาน ข่าน มอบผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซให้กับคนดูและโลกภาพยนตร์แล้ว นับจากนี้เราจะไม่ได้เห็นเขาในบทดีๆแบบนี้อีกต่อไปนอกเสียจากการเอาหนังของเขามาดูใหม่ ตลกร้ายพอควรที่อิลาเตือนเขาในหนังว่าบุหรี่จะทำให้อายุคุณสั้นลง 5 นาทีแล้วเขาก็เสียชีวิตจากมะเร็ง ที่เจ็บปวดกว่าคือมารดาของเขาเพิ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้าเพียงไม่กี่วันแต่เขาไม่สามารถไปร่วมงานศพมารดาได้เนื่องจากมาตรการล็อคดาวน์ประเทศของอินเดียในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ถึงวันนี้โลกอาจจะไม่มีดาราเจ้าบทบาทคนนี้อีกต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากเอื้อนเอ่ยคือในฐานะมนุษย์ผู้งมงายในภาพยนตร์ ขอขอบคุณที่ได้มอบความบันเทิงและความประทับใจให้ตลอดมา หากพระเจ้าแห่งภาพยนตร์มีจริงก็ขอให้รับเขาไว้ในอ้อมกอด และขอบคุณอีกครั้งที่มอบผลงานดีๆอย่างเรื่องนี้ให้ชม ด้วยความอาลัย Irrfan Khan
เป็นเรื่องราวความรักที่จริงใจที่สุดที่ออกมาจากบอลลีวูดในรอบหลายยุค เป็นเรื่องราวความรักที่เบ่งบานอย่างช้าๆ วันละหนึ่งตัวอักษร ระหว่างตัวละครที่ไม่น่าจะเป็นไปได้แต่ก็สิ้นหวังเท่าๆ กันสองตัวที่คุณอาจเทียบได้ ผู้กำกับมือใหม่ Ritesh Batra ซึ่งเป็นคนเขียนบทด้วย ได้สร้างภาพยนตร์ที่ล้ำค่าออกมา Batra สร้างความประทับใจได้เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างความประทับใจ เขาถ่ายทอดสภาพจิตใจของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างไพเราะเพราะเขาประหยัดอารมณ์และไม่พูดเกินจริง Batra สร้างภาพยนตร์ที่น่าจดจำด้วยความซับซ้อนหลายชั้นเพราะเขาซื่อสัตย์ต่อตัวเองและฝีมือของเขา Ritesh Batra นั้นยอดเยี่ยมมาก
การแสดงของนักแสดงนำ 3 คน ได้แก่ Irrfan Khan, Nawazuddin Siddiqui และ Nimrat Kaur นั้นเป็นธรรมชาติ ชวนสะเทือนใจ และน่าจดจำอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักแสดงหลักสองคน (เมื่อเทียบกันแล้ว) Khan และ Siddiqui นักแสดงหน้าใหม่ Nimrat Kaur ก็แสดงได้เกินหน้าเกินตา The Lunchbox ฉันไม่รู้จะบรรยายการแสดงของเธออย่างไร ตัวละครของเธอมีบุคลิกที่แยบยล ถูกทอดทิ้ง เศร้าโศก และซับซ้อนที่สุด แต่การแสดงของ Kaur กลับเป็นการแสดงที่น่าจดจำที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ บทบาทของเธอจะถูกพูดถึงไปอีกนาน แม้จะแปลกที่ส่วนความบังเอิญของภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยความผิดพลาดในการแสดงของ Dabbawalas ของบอมเบย์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความแม่นยำของ Six Sigma (99.999666%) แต่ภาพยนตร์ของ Batra ก็ยืนยันว่าแม้ว่าโอกาสที่จะพบรักแท้ในชีวิตจะยากเกินเอื้อม แต่ก็คุ้มค่าที่จะรอและเสี่ยงโชค
สุภาษิตเก่าแก่ที่กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าใน The Lunchbox ของ Ritesh Batra ที่น่ารักก็คือ บางครั้งรถไฟที่ผิดจะพาคุณไปที่สถานีที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ รถไฟกลับกลายเป็น dabba (กล่องข้าว) ที่ส่งผิดโดย dabbawala ให้กับผู้ประเมินสินไหมของรัฐบาลวัยกลางคนที่กำลังจะเกษียณอายุ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว dabbawala ประมาณ 5,000 คนในเมืองมุมไบจะส่งกล่องข้าวมากกว่า 130,000 กล่องต่อวัน แต่ก็แทบจะไม่เคยผิดพลาดเลย เขียนโดย Stefan Tomke ในโหมดของ You Got Mail อิลา (Nimrat Kaur) แม่บ้านสาวที่ทำหน้าที่เตรียมอาหารกลางวันให้กับสามีที่ห่างเหินทางอารมณ์ของเธอทุกวันและส่งให้เขาทางไปรษณีย์
ตามคำแนะนำของป้าชั้นบน นาง Deshpande (Bharati Achreka) อิลาพยายามทำให้สามีสังเกตเห็นเธอโดยใส่เครื่องเทศในอาหารมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อส่งไปให้ซาจาน (อีร์ฟาน ข่าน จาก Life of Pi) อย่างผิดๆ ผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจก็เกิดขึ้น สิ่งที่เริ่มต้นด้วยข้อความสั้นๆ จากซาจานถึงอิลาว่า “วันนี้อาหารเค็ม” พัฒนาเป็นบทสนทนาไปมาในกล่องอาหารกลางวันทุกวัน ซึ่งทั้งสองเปิดใจคุยกันเกี่ยวกับชีวิต ความทรงจำ ความหวัง และความฝันในอนาคต พล็อตย่อยที่เกี่ยวข้องกับอาสลัม เชค (นาวาซุดดิน ซิดดิคี) ผู้สืบทอดจากซาจานที่ร่าเริงสดใส เพิ่มอารมณ์ขันให้กับการดำเนินเรื่อง แต่ยังช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างตัวเขาเองกับซาจานที่หงุดหงิดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งอาสลัมและซาจานกลับน่ารักขึ้นเรื่อยๆ The Lunchbox เมื่อภาพยนตร์ดำเนินไป แม้ว่าตอนจบอาจทำลายความคาดหวังได้หากคุณคุ้นเคยกับการที่ทุกอย่างเข้ากันอย่างลงตัว แต่ The Lunchbox ผสมผสานอาหารกับความโรแมนติกเข้าด้วยกันได้อย่างน่าดึงดูดใจ ทำให้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ว่าอิลาและซาจานได้ก้าวไปสู่อีกระดับแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบและถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม โดยถ่ายทอดให้ผู้ชมชาวตะวันตกได้เข้าใจถึงการใช้ชีวิตในมุมไบโดยไม่ต้องเอาเปรียบความยากจน แม้ว่ารถไฟขบวนที่ผิดอาจพาคุณไปถึงสถานีที่ถูกต้องได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีรถไฟขบวนที่ผิดหรือสถานีที่ถูกต้อง อย่างที่ The Lunchbox แสดงให้เห็น มีเพียงรถไฟและการเดินทางเท่านั้น และทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบ
Mr. Brooks (2007) สุภาพบุรุษอำมหิต
Museum (2016) มิวเซียม พิพิธภัณฑ์สยอง
...โปรดรอสักครู่...