เรื่องย่อ : Sentinelle (2021) ปฏิบัติการเซนติเนล ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี NungHD หนังเต็มเรื่อง พากย์ไทย ซับไทย ดูหนังใหม่ 2024
คลาร่าทำงานเป็นล่าม ใน กองทัพฝรั่งเศสในซีเรีย สำหรับ ปฏิบัติการชัมมัลหลังจากจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายได้แล้ว เธอได้เห็นลูกชายตัวน้อยของชายคนนั้นระเบิดตัวเองตามคำสั่งของพ่อ โดยมีวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่บนร่างกายของเขาเธอได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดและมีอาการปวดหัวไมเกรน Sentinelle จึงถูกส่งตัวกลับบ้านที่เมืองนีซและย้ายกลับไปอยู่กับมาเรีย แม่ของเธอ และทานยา น้องสาวของเธอ ขณะที่ทำหน้าที่ในปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเซนติเนลเลในระหว่างการลาดตระเวน บาดแผลทางจิตใจของเธอแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมรุนแรงเกินเหตุและบางครั้งรุนแรงเกินควรต่อผู้ต้องสงสัย ยาแก้ปวดที่เธอได้รับนั้นไม่เพียงพอสำหรับเธอ และเธอเริ่มซื้อยาผิดกฎหมายเพิ่มเติม คืนหนึ่ง คลาร่าและทานย่าออกไปเที่ยวไนท์คลับ ทานย่าแยกทางกับคลาร่าเพื่อไปร่วมกลุ่มชาวรัสเซีย และส่งสัญญาณให้คลาร่ารู้ว่าเธอจะไปกับพวกเขา คลาร่าเฝ้าดูพี่สาวของเธอขณะที่เธอเริ่มเต้นรำกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งในท้ายที่สุดเธอก็ล่อลวงเธอ วันรุ่งขึ้น เธอได้รับแจ้งว่าทานย่าถูกข่มขืนและถูกทุบตีอย่างโหดร้ายจนโคม่า คลาร่าเริ่มการสืบสวนคดีนี้ด้วยตัวเอง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของไนท์คลับ ค้นหาชื่อของชายที่ทานย่าอยู่ด้วย และถ่ายรูปเขาไว้ในภาพ กัปตันมุลเลอร์แห่งกรมตำรวจฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้นำการสืบสวน ระบุตัวผู้ต้องสงสัยคือ อีวาน คาดนิคอฟ ลูกชายของลีโอนิด คาดนิคอฟ ผู้มีอิทธิพลและมีสายสัมพันธ์ดีกับมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย อีวานซ่อนตัวอยู่ในวิลล่าของพ่อของเขาที่แซ็งต์ฌองกัปเฟราต์แต่ทั้งคู่มีหนังสือเดินทางทางการทูตและเอกสิทธิ์คุ้มครองทำให้พวกเขาไม่สามารถแตะต้องได้หากไม่มีกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน
ไม่คิดใหญ่เกินตัว ไม่พยายามยาก เดินหน้าด้วยความซื่อตรง ตื่นเต้นแบบไม่ต้องตูมตาม แล้วปล่อยให้บรรยากาศสร้างความระทึก กับหนังแอ็คชั่นพลังหญิงที่มีความเป็นมนุษย์ฟอร์มเล็ก แต่ก็เล็กดีรสโต Netflix เมื่อนึกถึงหนังฝรั่งเศส สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นในหัวคืออะไร? แต่สำหรับแล้ว เรานึกถึง ฌอง เรโน ออเดรย์ ตาตู ซามี นาเซรี Sentinelle เรือนร่างเปลือยเปล่าของ มาริยง โกติลยาร์ด ในหนังเรื่อง TAXI (1998) ที่กลายมาเป็นความคลาสสิค เรานึกถึงหนัง Leon : The Professional (1994) ที่เป็นอีกหนึ่งความคลาสสิคดูเมื่อไหร่ยังสัมผัสได้ในความยอดเยี่ยม เรายังนึกถึง เทกี้ คาร์โย วายร้ายตลอดกาล และแน่นอน สุดยอดผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้างที่รังสรรค์งานชั้นยอดมาแล้วมากมาย ลุค เบสซง คือนามนั้น ด้วยเอกลักษณ์งานหนังแอ็คชั่นที่ดูปุ๊บจะรู้ว่านี่คือลายเซ็นต์ของ ลุค เบสซง ที่ไม่ว่าเขาจะทำหน้าที่กำกับเอง หรืออำนวยการสร้าง สิ่งนั้นคือความสัตย์ซื่อในแนวทางขายความบันเทิง อาจมีเยี่ยมบ้างหรืออาจมีกลวงบ้าง แต่อย่างน้อยงานทีมีชื่อ ลุค เบสซง ก็ไม่เคยห่วย และเป็นหนังที่ดูสนุก ขายในความถนัด และขายในสิ่งที่ต้องการขาย ไม่ต้องตูมตามระเบิดลูกโต ไม่ต้องฟอร์มยักษ์ใหญ่โต (ยกเว้น The Fifth Element (1997))
แต่มันส์ด้วยแอ็คชั่นที่พอดี ดุเดือด ซึ่งไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือไม่ว่า หนังแอ็คชั่นฝรั่งเศสที่สร้างโดยทีมงานฝรั่งเศสจริงๆ คล้ายกลับจะมี DNA ของหนัง ลุค เบสซง อยู่ร่ำไป จนบางครั้งแยกแทบไม่ออก อาจเป็นเพราะหนังฝรั่งเศสเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่เราได้มาสัมผัสจริงๆจาก ลุค เบสซง หรือตัว ลุค เบสซง คือปูชนียบุคคลของวงการหนังฝรั่งเศส ที่สร้างทางของหนังแอ็คชั่นฝรั่งเศสไว้แบบนี้หรือไม่ก็ไม่ทราบ กระทั่งเราเองได้เห็นตัวอย่างหนังเรืองหนึ่งแบบผ่านๆ ไม่ไต้ตั้งใจอะไรมากนัก แต่พลันสายตาเราไปสะดุดกับนักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยูเครน โอลก้า คูรีเลนโก้ คือชื่อนั้น ที่มอบความสะดุดใจในบทบอนด์เกิร์ลภาค Quantum Of Solace (2008) และหนังดังๆอีกมากมายพอตัว คราวนี้เธอมาในเครื่องแบบทหารฝรั่งเศสและมีลีลาบู๊ที่น่าสนใจ และมีความเป็นหนังแบบ ลุค เบสซง อยู่ในนั้น เราจึงตั้งแจ้งเตือนไว้เมื่อหนังเข้าฉายทาง Netflix กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 มี.ค.) ก็ได้ฤกษ์พิสูจน์เพราะเราเองก็โหยหางานแบบนี้มาสักพัก เนื่องเพราะช่วงหลังที่ท่านผู้อ่านได้อ่านบทความในเพจคงจะพอทราบว่า เราเองดูและเขียนถึงงานดราม่าเป็นส่วนใหญ่
งานขายความมันส์แบบนี้ไม่ได้เขียนถึงมานานพอดู อาจเพราะไม่ค่อยมีหนังแนวนี้ที่น่าสนใจและสะดุดตาเท่า ทันที่ที่เราดูจบ แรกเลยเราคิดถึง ลุค เบสซง ทั้งที่เขาไม่มีส่วนร่วมอะไรกับหนังเรื่องนี้เลย และที่เราคิดอีกอย่างคือ โอลก้า คูรีเลนโก้ ฉายแววความเป็นแอ็คชั่นสตาร์หญิงได้เต็มภาคภูมิ ทั้งที่ก็เคยเล่นเป็นดาราแอ็คชั่นนำเดี่ยวมาแล้วใน Momentum : สวยล้างโคตร (2015) ที่เราเองก็ได้ดูนะ แต่ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย แต่กับเรื่องนี้ มันคือความซื่อตรง เดินหน้าไปตรงๆ ไม่เล่นท่ายาก ไม่พยายามเกินตัว มันเลยออกมาสนุก ลุ้นระทึก แต่ทั้งหมดนั้นมาจากความที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลย Sentinelle ปฏิบัติการ #ซองติเนล (#เซนติเนล) เป็นปฏิบัติการของกองทัพฝรั่งเศส เริ่มในวันที่ 12 มากราคม 2015 ซองติเนล ทหารที่คอยเฝ้าระวังป้องกันภัย ต่อต้านการก่อการร้าย เตรียมป้องกัน คาดคะเนการโจมตี ปรับพฤติกรรมของตัวเองตามการคาดคะเนนั้น แทรกแซงเพื่อปกป้องพลเมืองและดินแดน ทหารปฏิบัติการซองติเนลลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงภัยคุกคาม ปัจจุบันมีทหารเคลื่อนพล 10,000 คนต่อวัน หลังจากปฏิบัติการที่ผิดพลาดพร้อมความสูญเสียในภารกิจในตะวันออกกลาง พันจ่า คลาร่า (โอลก้า คูรีเลนโก)
ทหารหญิงที่บอบช้ำทางจิตใจจากภารกิจนั้นได้กลับบ้านในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส และที่บ้าน มีแม่และ ทาเนีย (มาริลีน ลิม่า) น้องสาวรออยู่ และเมื่อกลับมาถึงบ้าน ทหารเจนการศึกในสนามรบจริงอย่างเธอต้องเข้าประจำการในหน่วยปฏิบัติการซองติเนล แต่บาดแผลจากสงครามที่ คลาร่า เจอส่งผลต่อสภาพจิตใจจนต้องพื่งยา และมันก็ทำให้เธอเสพติดยาที่ช่วยเธอ แต่แผลแห่งสงครามก็ยังคุกคามใจ คลาร่า เมื่อความรู้สึกไม่ไว้วางใจในผู้คน สภาพแวดล้อม ทำให้เธอรู้สึกกดดันในใจ จนกระทั่ง ทาเนีย พาเธอไปผ่อนคลายในไนท์คลับ แล้วเธอก็เจอหญิงสาวที่ต้องใจ และ ทาเนีย ก็เจอหนุ่มที่ต้องใจเช่นกัน ทาเนีย ออกจากไนต์คลับตามหนุ่มรัสเซียคนนั้นไป และ คลาร่า ก็แยกไปกับหญิงสาวที่เจอกันคืนนั้น เพื่อที่ตอนเช้าจะมารับรู้ข่าวที่ว่า ทาเนีย ถูกข่มขืนและถูกซ้อมจนอาการสาหัส แน่นอนว่า แม้ คลาร่า จะเป็นทหารเจนการศึกและมีทักษะทางการทหาร แต่เธอก็ยังต้องพึ่งพากระบวนการยุติธรรมของตำรวจ แต่เมื่อกระบวนการมันล่าช้า ทหารอย่างเธอจึงต้องสืบหาตัวคนร้ายเอง จนพบว่า ไอ้เดนมนุษย์ที่ทำร้ายน้องสาวของตนเองคือ อีวาน แคดนิคอฟ (อังเดร กอร์เลนโก) ลูกชายของ โลโอนอด แคดนิคอฟ (มิเชลล์ นาโบคอฟ) แขกของประเทศฝรั่งเศส ที่ถือพาสปอร์ตทางการทูต และอยู่ในบ้านที่มีสถานะเป็นสถานกงสุล
ซึ่งเป็นที่แน่นอนตามสูตรว่า ความยุติธรรมตามกระบวนการอาจเอื้อมไม่ถึงกากเดนมนุษย์พวกนี้ เมื่ออับจนหนทางที่จะจัดการกับพวกคนเลว ทหารหญิงผู้เจนการรบจึงต้องทวงความยุติธรรมให้กับน้องสาวด้วยตัวเองตามทางของหนังที่ต้องเป็น เรื่องเล่าแค่นี้บนความซื่อตรง ไม่มีอ้อมค้อม Sentinelle ไม่ต้องซับซ้อนหรือชักชวนให้คาดเดา แต่เล่นกับสภาวะจิตใจของตัวละคร สถานการณ์ และสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าไว้ใจ ทำให้หนังออกมาระทึกกว่าที่คาดไว้ แล้วทำให้หนังที่ดูง่ายๆ กลายเป็นของดีเมื่อการใช้สมองดูงานดราม่ามากมายก่อนหน้า ได้ผ่อนคลายและสนุกสาสมใจโดยไม่ต้องคาดหวังอะไร เท่านี้ก็พอ
#ไม่เรื่องมากไม่เล่นยากแต่สนุก เพราะเป็นเรื่องของ #ผู้หญิงทวงแค้น หรือ #สู้ไม่รู้จักตาย ในเวอร์ชั่นผู้หญิง ด้วยบทที่เดินหน้าไปแบบง่ายๆ ตรงๆ ไม่ต้องพลิกเหลี่ยมเฉือนคม เล่าเรื่องของทหารผ่านศึกที่ถูกส่งกลับบ้าน พร้อมแผลในใจจากสงครามที่กัดกร่อนความเป็นมนุษย์จากข้างใน แล้วเจอเรื่องคับแค้นในใจ และกระบวนการยุติธรรมที่เอื้อมไม่ถึงคนเลว ทักษะทางการทหารจึงต้องถูกใช้เพื่อทวงแค้น ชนิดที่ว่า เอาให้สาสม เรื่องมีแค่นี้จริงๆ ไม่ต้องพยายามบริหารสมองผู้ชม แค่เดินหน้าตรงๆไปเรื่อยๆก็ทำให้เรื่องน่าติดตาม ด้วยความที่ไม่สิ้นเปลืองบทสนทนา เพราะตัวละครเอกไม่ใช่คนที่พูดพร่ำเพรื่อ ไม่ต้องพยายามคมคายหรือสื่อความหมาย ซึ่งบทหนังก็ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เป็นเพราะบาดแผลแห่งสงคราม ทำให้การเล่าเรื่องของ คลาร่า คือการดูผ่านความเงียบและมองเข้าไปข้างใน อาศัยความเงียบและบรรยากาศเป็นตัวช่วย พร้อมกับงานด้านภาพก็ทำให้รู้ความเป็นไปของ คลาร่า ประกอบกับการสื่อสารผ่านความรู้สึกทางสีหน้าแววตาของตัวละคร มันเลยไม่ต้องพูดมาก แค่คิดแล้วก็คิด และตัดสินใจลุย พูดน้อยๆต่อยหนักๆ
ซึ่ง มันคือความรู้ตัวเองว่าจะวางตัวตนของหนังให้เป็นอย่างไร เดินหน้าไปประมาณไหน ไม่ต้องซ่อนเงื่อน ทั้งที่ถ้าจะทำก็ทำได้ แต่เลือกที่จะไปง่ายๆแบบนี้ดีกว่า และมันก็ทำให้เข้าถึงง่าย เรื่องเดินหน้าเร็ว แต่กระนั้น สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือมันง่ายเกินไป มันจึงอาจจะทำให้ผู้ชมที่ต้องการอะไรมากกว่านั้นมีความรู้สึกว่า มันไม่สุด แต่ถ้ามองอย่างเป็นธรรมว่า หนังวางตัวเองให้เป็นหนังเล็กๆ นักแสดงนำหลักๆไม่กี่คน ไม่ได้ตั้งใจให้ใหญ่เกินตัว ก็คงพอเข้าใจได้ว่า หนังมีความสัตย์ซื่อในการที่จะขายในสิ่งที่ต้องการขาย นั่นคือการเป็นงานแอ็คชั่นทริลเลอร์ฟอร์มเล็ก งานแอ็คชั่นพลังหญิงที่มีความเป็นมนุษย์ และความเป็นมนุษย์นี่เอง ที่ทำให้หนังไม่หลุดจากโลกแห่งความจริง ด้วยตัวละครที่ไม่ได้เก่งแบบไม่มีที่มาที่ไป แต่นี่คือทหารที่ผ่านสนามรบมา ความเก่งกาจมาจากทักษะทางการทหาร แต่กระนั้นในความเป็นมนุษย์ของตัวละคร ก็ทำให้ตัวเอกไม่ได้เก่งจนกระทั่งลุยเดี่ยวได้กับคนเป็นร้อยโดยไร้รอยขีดข่วน มีโดนต่อยปากแตก มีโดนอัดสะบัดสะบอมบ้าง แต่ที่เห็นชัดเจนที่เป็นรายละเอียดที่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นก็คือ ความต่างระหว่างทักษะทางการทหารที่เจนจัดในสนามรบ กับพวกนักเลงทั่วไปมันต่างกันในรายละเอียดของฉากแอ็คชั่นต่อสู้ระยะประชิด มันจึงดูสมจริง และสลัดภาพการต่อสู้แนว John Wick ที่แพร่หลายมากในยุคนี้ออกไป ทำให้มันเป็นความสนุกในแบบเข็มขัดยาว คือเกินคาดนั่นเอง
#ไม่ต้องเอะอะตูมตามแต่ระทึกทางความรู้สึก นอกจากระเบิดลูกโตในตอนเปิดหนังแล้ว ไม่มีอีกเลยกับความโฉ่งฉ่างตูมตาม ด้วยลูกเล่นง่ายๆ ด้วยการปูพื้นฐานตัวละครว่าเก่งและมีทักษะการต่อสู้มาจากไหน แต่กระนั้นก็ยังไม่ได้ออกลุยระห่ำอย่างเดียว แต่ยังวางตัวละครให้มีรอยแผลที่กัดกร่อนข้างในจนวางลงไม่ได้ และต้องใช้ยาบำบัด จนกระทั่งเสพติดมัน เล่าเรื่อยมาจนถึงการพยายามผ่อนคลายในใจ ทำให้เรื่องราวเลวร้ายเขามา ความรู้สึกผิด ความที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องพึ่งกระบวนการ จนความหวังในการเอาตัวคนผิดมาลงโทษผ่านกระบวนการที่เริ่มเลือนลาง กระทั่งถึงที่สุดความอดทนก็สะบั้น จนต้องลุกขึ้นมาทวงแค้น เดินตามเส้นตรงแบบนี้ ไม่เอะอะ ไม่โฉ่งฉ่าง แต่ดำเนินผ่านความรู้สึกข้างใน ที่เริ่มตึงขึ้นทีละนิด จนขาดผึงแล้วลุย ซึ่งก่อนจะถึงจุดนี้เรื่องราวก็ปูมาพอสมควรแล้ว
แม้ว่ามันจะไม่ถึงกับมอบความรู้สึกมีอารมณ์ร่วมแบบสุดขีด แต่ก็รู้สึกว่ามีเหตุผลอันควรที่จะทำ เพราะผู้ชมไม่มีความรู้สึกขัดแย้งข้างในเลย และมันก็ทำให้ผู้ชมเอาใจช่วย คล่าร่า อย่างที่ควรจะเป็น ส่วนฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือด สมจริง ก็ไม่มากจนเกินไปจนดูยืดยาดอึดเกินคน และไม่น้อยจนเกินไปจนรู้สึกว่าหนังไม่มีอะไรให้เสพ จนกระทั่งไคลแม็กซ์สุดท้ายที่เล่นกับความลุ้นไปกับบรรยากาศ สภาพรอบตัวว่า ผู้ร้ายจะโผล่มาทางไหน ซึ่งแม้มันจะเป็นลูกเล่นที่ใช้มาจนปรุ หนังแอ็คชั่นก็ใช้ หนังผีหนังสยองขวัญก็ใช้ หนังสัตว์ประหลาดก็ใช้ แต่เมื่อมันทำได้ถูกที่ถูกเวลา เสริมด้วยงานด้านภาพ และสถานการณ์ มันก็ยังได้ผล เพราะมันลุ้นจริงๆจนแทบกลั้นหายใจตาม แม้กระทั่งสุดท้ายที่ปล่อยให้ผู้ชมไม่สาสมใจ แต่ก็มาเอาคืนแบบทบต้นทบดอก ซึ่งมันคือความสนุกเกินคาดอย่างที่บอก แต่กระนั้น เอาตามตรงคือบทมีหลายจุดที่รั่ว แม้จะทำได้ดีในการไปแบบง่ายๆ แต่ก็มองเห็นความรั่วที่มี เพียงแค่นั่นไม่ใช่ปัจจัยสำคัญมากมายที่จะไปมองหามัน เมื่อดูแบบไม่คาดหวัง เพราะเราเองก็ไม่ได้พยายามหวังอะไรมากกว่าการดูเอามันส์จากหนังประมาณนี้แล้ว มันก็สนุกและลุ้นไปอย่างที่เวลาเดินไปอย่างเร็ว และด้วยความที่หนังตัดมาแค่ 80 นาทีรวมเอนด์เครดิต มันส่งผลดีให้หนังที่ไม่ได้มีอะไรเลยเรื่องนี้เดินหน้าไปอย่างมีพลังในตัว แต่ถ้ายาวกวานี้ก็ไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว และจะกลายเป็นความน่าเบื่อทันที Sentinelle แต่ด้วยความชาญฉลาดที่ตัดเอามาแค่นี้ มันก็ทำให้หนังดูได้อย่างสนุกคุ้มค่าแก่เวลา
#การฉายแววแอ็คชั่นสตาร์หญิงที่ดูดีกว่าการพยายามครั้งก่อน สำหรับนักแสดงหญิงชื่อเหมือนรัสเซีย แต่เป็นชาวฝรั่งเศสคนนี้ ความจริงเธอมีหนังแอ็คชั่น หรือจะเรียกว่ามีความพยายามขายความเป็นแอ็คชั่นสตาร์พลังหญิงดวงใหม่มาแล้วใน Momentum : สวยล้างโคตร (2015) ที่เลือนหายไปตามกาลเวลา ทั้งที่มีนักแสดงชั้นนำร่วมแสดงมากมาย แล้วมามีหนังอีกเรื่องในปี 2019 ที่เราไม่ได้ดูคือ The Courier แต่เอาแค่เรื่องแรกที่เธอเล่นเป็นนางเอกแบบสวยสังหาร มันดูดีแต่มันก็ธรรมดาเกินไป เป็นงานแอ็คชั่นธรรมดาที่เรามองว่ามันมีกันกลาดเกลื่อน จนไม่มีอะไรติดใจ แต่กับเรื่องนี้ ด้วยความที่หนังมันเล็ก และมันเล่าเรื่องตรงไปตรงมาแบบจะว่าตรงเกินไปก็ได้ และการไม่เล่นใหญ่มากมายของหนังมันเลยทำให้ โอลก้า คูรีเลนโก สามารถให้การแสดงที่ลึกเชิงมิติตัวละครได้
เพราะไม่ต้องมัวมาอัดฉากต่อสู้ยิงกันกระจาย เตะต่อยกันจนลืมเหนื่อย ไม่ต้องเป็นแบบสวยพิฆาต หรือสวยสังหาร แต่ออกมาแบบหน้าสด เครียดเพราะบาดแผลทางใจจากสงคราม แอ็คชั่นก็เรียบง่าย พอดี แต่สมจริง ซึ่งผิดกับหนังแอ็คชั่นที่ฟอร์มโตกว่านี้ที่ตั้งหน้าตั้งตาอัดความมันส์ให้ผู้ชม จนกระทั่งแห้งแล้งทางตัวละคร ซึ่งว่ากันตามตรงเรื่องนี้ก็ไม่ได้ลึกล้ำมากมาย เพียงแต่มันพยายามไม่เล่นท่ายากอย่างที่บอก มันก็เลยดูมีน้ำมีนวล เป็นตัวละครที่ดูเชื่อได้ว่ามีทักษะการต่อสู้ การลุยกับพวกผู้ร้ายก็ไม่ได้ลุยกับคนเป็นร้อย ไม่ใช่วิ่งเข้าหาหลบกระสุน ยิงกันตายเกลื่อน แต่ลักลอบเข้าไปอย่างใจเย็น และฉากต่อสู้ที่ออกมาสมจริงไม่ได้เก่งจนเกินคน มันเลยทำให้ตัวนักแสดง โอลกา คูรีเลนโก ดูดีขึ้นมาในการแสดงแอ็คชั่นที่สมจริง ไม่ต้องเว่อร์วัง มันจึงทำให้ราศีแอ็คชั่นสตาร์พลังหญิงเด่นขึ้นมามากกว่าเรื่องก่อนๆเยอะ และด้วยความที่หนังมันง่าย พวกผู้ชายก็กลายมาเป็นดอกไม้ริมทางให้ทวงแค้นเอาคืนอีกครั้ง และ การแสดงก็มาแบบกระสอบทรายให้โดนไล่เตะตามแนวของหนังแบบนี้ เลยกลายเป็นว่า ตัวนางเอกแบกหนังไว้ทั้งเรื่องได้เลย เพียงแต่น้ำหนักหนังมันไม่เยอะ เลยแบกได้สบายๆ แต่ก็นะ ความจริงตัวหนังก็อาจจะเลือนหายไปกับกาลเวลาไม่ต่างกัน เพราะเอาจริงก็ไม่ได้มีอะไรให้ติดใจมากมาย แต่กระนั้นการฉายแววแอ็คชั่นสตาร์หญิงที่ว่า มันเป็นเพราะคาแร็คเตอร์ที่แตกต่าง ถ้าได้รับการต่อยอดให้เธอได้ดีกว่านี้ ในหนังแบบที่ให้ได้เล่นอะไรมากกว่างานแอ็คชั่นตูมตาม ก็น่าจะไปต่อได้ในฐานะนักแสดงหนังแอ็คชั่นนำเดี่ยวได้ของ โอลกา คูรีเลนโก แต่กับเรื่องนี้ ดูได้สนุกเพลิดเพลินตามสภาพของหนังที่เป็น
#บางที่การไม่ต้องทำอะไรให้มันยากก็ส่งผลที่คุ้มค่า บางทีเรื่องที่มันควรจะง่ายมันก็ต้องง่ายแบบนี้ ไม่ต้องตั้งท่าจะหักมุม ไม่ต้องซ้อนเงื่อนซ้อนปมห่าเหวอะไรมากมาย เดินไปตรงๆแบบนี้ก็เพลินดี ไม่ต้องคิดมาก จดจ่ออารมณ์ไปกับตัวหนังหรือเอาให้ชัดก็คือตัวละครที่หนังต้องการขายสถานเดียว มันเลยมอบอารมณ์ระทึก เพราะจิตผู้ชมจดจ่อกับการติดตามตัวนางเอกว่า จะไปยังไง จะเอายังไงต่อ แต่ทั้งนี้ ไม่มีความน่ากังขาในตัวนางเอก เพราะเรื่องได้ปูพื้นฐานความเป็นเธอมาตลอด และเมื่อถึงเวลาก็ในความมันส์มาให้สนุก แต่มาด้วยความถูกจังหวะเวลาที่ควรมา และมันยิ่งได้ใจและได้ลุ้นเมื่อตัวนางเอกไม่ได้เก่งจนไม่มีใครสู้ได้ ไม่ใช่ยอดมือสังหาร เป็นแค่ทหารธรรมดาที่มีทักษะทางการรบที่ถูกฝึกมา ยังมีโดนเตะโดนต่อยบ้าง มันเลยได้ใจผู้ชม เพราะความไม่เก่งจนเป็นยอดมนุษย์ มันเลยทำให้มันดูเป็นความต่างจากหนังแนวนี้ทั่วๆไป และทำให้ดูได้อย่างสนุกในเวลาที่ไม่ยาวเกินไปและไม่สั้นเกินไปสำหรับหนังที่เล่าเรื่องตรงๆแบบนี้ เพราะอย่างที่บ่นบ่อยๆว่า บางทีการที่เราเสพหนังดราม่ามากเกินไป หรือยิ่งช่วงหลังๆเจอเกาหลีหักมุมซ้อนไปซ้อนมาเสียจนสมองเริ่มบวม การดูหนังที่ไปตรงๆไม่ต้องเปลืองพลังงานทางสมอง เล่าไปเรื่อยๆ แต่สนุกและลุ้นได้บางมันก็ผ่อนคลายดี เช่นที่หนังเรื่องนี้เป็น เพราะแม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรกับหน้าหนัง แต่การดูตัวอย่างแล้วน่าดู หนังก็ไม่ได้กินเวลาการดูมากมาย มันเลยทำให้นี่คือความบันเทิงชั้นดีที่ให้มาอย่างเกินคุ้มกับฟอร์ม และเสกลของหนัง เพราะหนังอาจเล็กแต่สนุกอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้การดูเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่แม้จะไม่ยอดเยี่ยมมากมาย หลายคนอาจจะไม่ชอบด้วยซ้ำ แต่สำหรับเราแล้ว เราเพลินไปกับความตรงๆของหนัง และมองว่ามันก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่ดูแล้วก็จบกันไปอีกเรื่อง แต่ก็ยังกล้าบอกได้ว่า คุ้มค่ากับเวลาได้เลย
Shaolin (2011) เส้าหลิน สองใหญ่
...โปรดรอสักครู่...