ดูหนังใหม่ 2024 หนังออนไลน์ ดูหนังฟรี HD หนังเต็มเรื่อง Netflix

ดูหนัง Monsters (2010) เขมือบดุ

เรื่องย่อ

หลังจาก ยานสำรวจอวกาศ ของ NASA (ซึ่งถูกส่งไปเพื่อยืนยันการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลกในระบบสุริยะ)  Monsters ตกลงมาที่เม็กซิโกสิ่งมีชีวิตนอกโลก ก็แพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐอเมริกาส่งผลให้พื้นที่ทางตอนเหนือของเม็กซิโกต้องถูกกักกัน กองทัพสหรัฐฯ และเม็กซิโกต้องต่อสู้เพื่อควบคุมสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ และกำแพงขนาดใหญ่ที่ทอดยาวตามแนวชายแดนก็ช่วยปกป้องสหรัฐฯ ไว้ได้แอนดรูว์ คอลเดอร์ ช่างภาพข่าวชาวอเมริกันได้รับโทรศัพท์จากนายจ้างของเขา ซึ่งบอกให้แอนดรูว์ตามหาซาแมนธา วินเดน ลูกสาวของเขา และพาเธอกลับสหรัฐอเมริกา แอนดรูว์พบซาแมนธาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอเมริกากลาง และทั้งคู่ก็ขึ้นรถไฟ จนกระทั่งได้รู้ว่ารางรถไฟข้างหน้าได้รับความเสียหาย  พวกเขาพบว่าหากไม่ออกจากประเทศภายในไม่กี่วัน การเดินทางทางทะเลและทางอากาศจะถูกปิดกั้นเป็นเวลาหกเดือน แอนดรูว์และซาแมนธาตัดสินใจโบกรถไปที่ชายฝั่ง แอนดรูว์ซื้อตั๋วเรือข้ามฟากราคาแพงให้ซาแมนธาสำหรับเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากสนุกสนานกับชีวิตกลางคืนในท้องถิ่นด้วยกัน แอนดรูว์ก็ไปนอนกับผู้หญิงในท้องถิ่นที่ขโมยหนังสือเดินทางของพวกเขาไป ซาแมนธาไม่สามารถขึ้นเรือเฟอร์รี่ได้ จึงถูกบังคับให้แลกแหวนหมั้นของเธอเพื่อผ่านเขตกักกัน

พวกเขาเดินทางโดยเรือแม่น้ำจนกระทั่งถูกโอนไปยังกลุ่มผู้คุ้มกันติดอาวุธซึ่งจะพาพวกเขาเดินทางทางบกไปยังชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ขบวนรถถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ แอนดรูว์และซาแมนธาหลบหนี แต่ไม่มีใครรอดชีวิต พวกเขาเดินหน้าต่อไปและพบศพนักเดินทางที่เสียชีวิตและผูกมิตรกันบนยอดปิรามิดที่พังทลายซึ่งมองเห็นกำแพงชายแดนสหรัฐฯ เมื่อถึงชายแดน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้ข้ามเข้าสู่สหรัฐฯ แล้ว แอนดรูว์และซาแมนธาเดินทางผ่านเมืองในเท็กซัสที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและมีการอพยพผู้คน และพบปั๊มน้ำมันร้างที่มีไฟฟ้า ซึ่งพวกเขาได้โทรเรียกกองทัพมาช่วยเหลือ

ขณะรอความช่วยเหลือมาถึง  Monsters พวกเขาโทรหาครอบครัว สิ่งมีชีวิตตัวเดียวเดินเข้ามาที่ปั๊มน้ำมันอย่างเงียบๆ ซาแมนธาซ่อนตัวอยู่และสังเกตเห็นหนวดหลายหนวดกำลังสำรวจภายในร้าน ดูเหมือนว่าหนวดเหล่านั้นจะดูดแสงจากทีวีเข้าไป ซาแมนธารีบถอดปลั๊กทีวีออกอย่างรวดเร็ว และสิ่งมีชีวิตตัวนั้นก็หมดความสนใจ สิ่งมีชีวิตอีกตัวปรากฏตัวขึ้นและพวกมันสื่อสารกันและอาจผสมพันธุ์กันผ่านแสง สิ่งมีชีวิตทั้งสองจากไปเมื่อกองทัพมาถึง ซาแมนธาและแอนดรูว์จูบกันก่อนที่พวกเขาจะรีบขึ้นรถคนละคัน ตอนจบตามลำดับเวลาเกิดขึ้นในช่วงต้นของภาพยนตร์ ซึ่งถ่ายทำด้วยระบบมองเห็นกลางคืนสีเขียว เมื่อทีมกู้ภัยของกองทัพถูกสิ่งมีชีวิตโจมตีระหว่างทางกลับฐาน แอนดรูว์ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายขณะอุ้มร่างไร้วิญญาณของซาแมนธา ขณะที่สิ่งมีชีวิตตัวนั้นถูกโจมตีทางอากาศ

ผู้กำกับ

• Gareth Edwards

บริษัท ค่ายหนัง

• Vertigo Films

นักแสดง

• Scoot McNairy
• Whitney Able

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

หมื่นทิพ

เป็นหนังที่ได้รับการกล่าวถึงในหลายแนวทาง ที่ชอบก็มี  Monsters ที่เฉยก็มาก ตอนก่อนหนังฉายส่วนใหญ่จะถูกมองว่าหนังควรจะเหมือน District 9 แต่เอาเข้าจริงๆ มันไปคนละทางเลยครับ แม้บรรยากาศฉากหลังจะมีกลิ่นอายไซไฟและหนังสัตว์ประหลาดอยู่ก็ตาม ผมว่ามันคือหนังชีวิต + หนังรักน่ะครับ โดยมีเรื่องของสัตว์ประหลาด (หรือในที่นี้คือมนุษย์ต่างดาว) เป็นฉากหลัง ตัวเอกคือแอนดรูว์ (Scoot McNairy) นักข่าวที่ถูกส่งไปเม็กซิโกเพื่อพาตัวแซม (Whitney Able) ลูกสาวของหัวหน้ากลับมาอเมริกา เอาเข้าจริงหนังยาว 94 นาทีเรื่องนี้ คือหนังดราม่าครับ หนังว่าด้วยการเดินทางของ 2 ตัวละครที่ต่างก็มีปมในใจตน โดยจะมีเรื่องของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่ “ว่ากันว่ามาตั้งรกรากบนโลก” ถูกพูดถึงอยู่เป็นระยะ แต่เราจะได้ไม่เห็นอะไรแบบเต็มๆ ครับ ต้องรอจนไคลแม็กซ์นั่นแหละ พอจะเข้าใจเลยครับว่าทำไม Gareth Edwards ผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ ถึงถูกตามตัวไปทำ Godzilla นั่นก็เพราะสไตล์ของหนังมันได้อารมณ์หนังสัตว์ประหลาดโดยไม่ต้องเห็นตัวประหลาดแบบเต็มๆ และครั้นพอได้เห็นแล้วก็พบว่า Edwards มีมุมมองในการตีความที่น่าสนใจทีเดียว กระนั้นหากว่าตามจริงแล้ว ผมก็ไม่ถึงกับโปรดหนังมากมายครับ แต่ชอบบรรยากาศ ชอบฉากที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ท่ามกลางเรื่องเล่าของสัตว์ประหลาดตามมุมมองของชาวบ้าน ในขณะที่ 2 ตัวเอกนั้นก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่เลวครับ เพียงแต่อาจยังไม่ถึงขั้นโดดเด่นจนเตะตาเท่านั้นเอง นี่เป็นหนังที่เหมาะแก่การดูแบบไม่คาดหวังครับ มันไม่มี Action มันไม่ได้มีความระทึกหรือตื่นเต้น แต่มันคือหนังดราม่าว่าด้วยคน 2 คนที่เดินทางไปด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ แล้วก็เรียนรู้ศึกษาซึ่งกันและกัน จนเริ่มเข้าใจกันและกันมากขึ้น ถ้าใครยังไม่ได้ดู พออ่านแล้วสนใจ ก็ลองลิ้มได้เลยครับ เผื่อจะชอบกัน ^_^ สองดาวครับ

คนวิจารณ์หนังไม่เป็น

หนังเล่าว่า 6 ปีที่เเล้วมีสัตว์ประหลาดปลาหมึกยักษ์ตกลงมาในโลก ทำให้กองทัพบุกกำลังเสิรมเเต่ไม่สามารถฆ่ามันได้หมดเลย เเต่ปัจจุบันเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ยังอะลาวาดไปทั่ว กองทัพสหรัฐเเละเม็กซิโก ต้านมันใว้ไมได้เลย เเต่เมื่อนักข่าวอเมริกัน เอนดรูว์ เคาล์เดอร์ (สกูต เเมกไนรี) สัญญากับหัวหน้าว่าจะพาลูกสาวของเขา ซาเเมนธา วินเดน (วิตนี่ย์ เอเบิล) ที่เป็นนักท่องเที่ยว โดยที่เขาต้องกลับบ้านในทางบก ซึ่งก็คือ ต้องผ่านเเดนสัตว์ประหลาดหวงห้าม เเต่ทั้งคู่ก็ต้องกลับไปให้ได้ คนส่วนใหญ่คิดว่าหนังเรื่องนี้ ออกเเนวสัตว์ประหลาดกินคนอะไรประมาณนี้่เเต่ไม่ มันเป็นหนังผจญภัย ไซไฟ โรเเมนติค มากกว่า ตั้งเเต่ชื่อล่อคนดู ” เขมือบดุ ” ชื่อดูน่าดูดีนะครับ เเต่ไม่เลย หนังมันมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมาก็จริงเเต่ เ้รื่องสัตว์ประหลาดเป็นรองไปเลย การผจญภัยมาที่หนึ่งเลย เพราะทั้งเรื่องเเค่เดินฝ่าข้ามเขตอันตราย เเค่นั้นถึงเจอก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย กลายเป็นหนังหลอกคนดู เเต่ด้านดีของหนังก็คือ การผจญภัยนี่เเหละ เพราะทั้งคู่เเค่เดินไปก็จริงเเต่ทั้งคู่ต้องอันตรายออกมาหน่อย ดูส่วนนักเเสดงครับ สกูต กับ วิตนี่ย์ คู่รักในจอเเละนอกจอ เเสดงได้สมบทบาทครับ เหมือนทั้งคู่เป็นสามี ภารยา จริงๆ ทั้งๆที่ในเรื่องนี้เป็นเเค่นักภาพรับลูกสาวกับบ้าน

———————————-สรุป————————————–

ข้อดี
+ หนังยังมีความผจญภัยอยู่ ซึ่งไม่น่าเบื่อเลย
+ การเเสดงของทั้งคู่ เยื่ยมไปเลยครับ

ข้อเสีย
– หนังหลอกคนดูครับ
– สัตว์ประหลาดไม่น่ากลัวที่คิด

สรุปคะเเนนกันครับ ผมให้ 6.7/10 ครับ

Corpus_Vile

ยอมรับเถอะว่าเนื้อเรื่องนี้ฟังดูเจ๋งสุดๆ เลยใช่ไหม? แล้วอะไรผิดพลาดตรงนี้ล่ะ? เอาล่ะ เริ่มจากจังหวะก่อนเลย โดยพื้นฐานแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนักในภาพยนตร์เรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำออกมาได้ดี สวยงาม และมีบรรยากาศที่น่าขนลุกอย่างน่าประหลาดใจ และต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับ Gareth Edwards ที่ทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ด้วยงบประมาณเพียง 15,000 ดอลลาร์ แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างไม่มีอะไรเกิดขึ้นและค่อนข้างน่าเบื่อ สิ่งที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือมันทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Monsters” นั้นแทบจะไม่มีสัตว์ประหลาดเลย มีแต่ความระทึกขวัญหรือความน่ากลัว เมื่อสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้น พวกมันก็จะไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน หรือไม่ก็แสงก็มืดเกินไปจนมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น หรือไม่ก็กล้องก็สั่นไปหมด ฉันรู้ดีถึงงบประมาณและรู้ดีถึงสาเหตุ แต่ความระทึกขวัญนั้นก็หายไป

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากเปิดเรื่องที่ยอดเยี่ยม ถ่ายด้วยระบบมองเห็นกลางคืน สไตล์ภาพติดกำแพง เป็นฉากที่ทหารกลุ่มหนึ่งกำลังกราดยิงในขณะลาดตระเวน ทำให้เปรียบเทียบกับอิรักได้ทันที และให้ความรู้สึกถึงยุคปัจจุบันที่เร่งด่วนราวกับว่ามันกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่หลังจากนั้น สิ่งต่างๆ ก็แย่ลงเรื่อยๆ โดยมีฉากทะเลทรายเป็นฉากหลัง และไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ใครก็ตามที่กำลังมองหาภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นที่มีจังหวะรวดเร็ว หรือภาพยนตร์ที่มีสัตว์ประหลาดมากมาย พร้อมด้วยความระทึกขวัญและความตื่นเต้น ควรจะหลีกเลี่ยงภาพยนตร์เรื่องนี้ และฉันเน้นย้ำเรื่องนี้อย่างหนักแน่นจริงๆ แฟนๆ หนังสยองขวัญแนวแปลกแหวกแนวอาจจะชอบหนังเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้มีความทะเยอทะยาน สร้างมาได้ดี แต่สุดท้ายก็ดูน่าเบื่อและน่าเบื่อ ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังสำหรับหนังที่มีชื่อเรื่องและเนื้อเรื่องแบบนี้ ให้ 5/10 คะแนนเต็ม เพราะทำออกมาได้ดีทั้งด้านเทคนิค โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากงบประมาณ แต่สุดท้ายแล้วก็ถือว่าน่าผิดหวังและน่าเบื่อมาก และเป็นหนังที่ทำให้รู้สึกว่าหนังขาดตกบกพร่องไปมาก

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Sabel Is Still Young (2022)

Dark Tide (2012) ล่านรกใต้สมุทร

Apt Pupil (1998) พลิกหลักสูตรมรณะ

Scary Stories to Tell in the Dark (2019) คืนนี้มีสยอง

My Father is a Hero (1995) ต้องใหญ่ให้โลกตะลึง (ครั้งนี้หัวใจใครก็เจ็บไม่ได้)