ดูหนัง Hunger Game ฮังเกอร์เกมส์ ทุกภาค : ความมหัศจรรย์ของความกล้าหาญและความต่อสู้เพื่อความยุติธรรม “ฮังเกอร์เกมส์” (The Hunger Games) เป็นซีรีส์ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายขายดีของซูซาน โคล린ส์ ซึ่งพาผู้ชมไปสู่โลกอนาคตที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและความไม่ยุติธรรม ซีรีส์นี้ประกอบด้วย 3 ภาคหลักและ 1 ภาคสปินออฟ แต่ละภาคมอบความตื่นเต้น ความลึกลับ และข้อความที่มีคุณค่าเกี่ยวกับความกล้าหาญและความต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เป็นซีรีส์ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความลึกลับ และความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความกล้าหาญและความต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ในเกมที่โหดร้าย การต่อต้านระบบที่ไม่ยุติธรรม หรือการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและคนที่รัก ซีรีส์นี้สามารถทำให้ผู้ชมได้รับความบันเทิงในระดับสูง และยังสามารถสื่อความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความหมายของชีวิตและความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุด หนึ่งในความน่าสนใจของ “ฮังเกอร์เกมส์” คือการที่สามารถทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความลึกของตัวละครและเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ความขัดแย้งที่ซับซ้อน หรือการพัฒนาของตัวละครที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในแต่ละเรื่อง
“ฮังเกอร์เกมส์” ไม่เพียงแต่เป็นความบันเทิงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและฉากสุดตื่นเต้น แต่ยังสามารถสื่อความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความหมายของชีวิต ความยุติธรรม และความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุด หนังประเภทนี้สามารถทำให้ผู้ชมได้รับความบันเทิงในระดับสูง และยังสามารถสื่อความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความหมายของชีวิต ความยุติธรรม และความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุด “ฮังเกอร์เกมส์” ยังสามารถทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้ถึงความซับซ้อนของความสูญเสียและความกล้าหาญ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความหวัง ความเศร้า หรือความสุข หนังประเภทนี้มักจะใช้ความสูญเสียและความกล้าหาญเป็นเครื่องมือในการสื่อความหมาย และทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงอารมณ์ของตัวละครอย่างลึกซึ้ง
[read more]
1 . The Hunger Games (2012) เกมล่าเกม
เนื้อเรื่องของเกมล่าเกม เกิดขึ้นที่ พาเน็ม เดิมพาเน็มแบ่งออก 13 เขตปกครอง มีแคปปิตอลเป็นเมืองหลวง แคปปิตอลนั้นกดขี่ทั้ง 13 เขตมาโดยตลอด จนทำให้เขต 13 ก่อกบฏ แคปปิตอลไหวตัวได้ทันและทำลายเขต 13 ทิ้งจนไม่เหลือซาก และเพื่อเป็นตอกย้ำให้ประชากรอีก 12 เขตทราบถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากคิดก่อกบฏ แคปปิตอลจึงจัดการแข่งขัน “เกมล่าชีวิต” ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจประชาชนทุกคนว่าแคปปิตอลมีอำนาจแม้กระทั่งควบคุมชีวิตคนได้ กฎของเกมล่าชีวิตคือ ทั้ง 12 เขต ต้องจับสลากเลือกบรรณาการชายหญิงอายุ 12-18 ปี ในวันเก็บเกี่ยว อย่างละคน มาเพื่อลงแข่ง และทั้ง 24 คน จาก 12 เขต ต้องฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว แคตนิส เอฟเวอร์ดีน เด็กสาววัย 16 ปี อาศัยอยู่ในเขต 12 ที่แร้นแค้น
เธอเป็นเสาหลักให้ครอบครัวนับตั้งแต่พ่อตาย คอยหาอาหารประทังแม่กับน้องสาว ในวันเก็บเกี่ยว ก่อนเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 พริมโรส เอฟเวอร์ดีน น้องสาวของแคตนิสถูกจับชื่อเป็นบรรณาการหญิงของเขต 12 ซึ่งแคตนิสเองก็อาสาแทนพริมเนื่องจากไม่ต้องการให้เธอตายในสนามประลอง และบรรณาการชายของเขต 12 ก็ตกเป็นของ พีต้า เมลลาร์ก ลูกชายร้านขนมปังที่เคยช่วยชีวิตแคตนิสไว้ในตอนที่เธอเกือบจะอดตาย แคตนิสล่ำลาครอบครัวและออกเดินทางออกจากเขต 12 ตรงสู่แคปปิตอลเพื่อเข้าแข่งเกมล่าชีวิตทันที แคตนิสและพีต้าต้องเข้าพบกับพี่เลี้ยงเขต 12 ซึ่งก็คือ เฮย์มิช อาเบอร์นาธี ผู้ชนะเพียงคนเดียวของเขต 12 จากเกมล่าชีวิตครั้งที่ 50 ซึ่งแคตนิสก็ไม่ถูกชะตากับเฮย์มิชเท่าไรนัก เมื่อถึงแคปปิตอลทั้งสองเข้าพบกับทีมสไตล์ลิส ที่นำโดยซินน่า เพื่อแปลงโฉมให้ทั้งสองเป็นที่สนใจและดึงดูดแก่เหล่าสปอนเซอร์ที่จะส่งของมาช่วยเหลือในสนามประลองได้ และผลก็เป็นดังคาด เขต 12 ได้รับการจับตามองจากผู้ชมอย่างล้นหลาม
ในการฝึกซ้อมแคตนิสและพีต้าสามารถทำผลงานได้ดี จนทำให้ทุกสายตาของแคปปิตอลจับจ้องไปยังพวกเขาทั้งคู่ และในวันสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันพีต้า ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรว่า เขามาแข่งครั้งนี้พร้อมกับคนที่เขาหลงรัก นั่นก็คือแคตนิส ทำให้ผู้ชมเริ่มเห็นใจและเทคะแนนให้เขต 12 มากขึ้น แต่แคตนิสกลับมองว่าพีต้าทำเพื่อตัวเองเสียมากกว่า ในวันแข่งขัน สนามประลองถูกออกแบบให้เป็นป่าขนาดใหญ่ มีทุ่งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับคอร์นูโคเปีย ที่รวบรวมอาวุธและข้าวของเครื่องใช้ให้บรรณาการมาแย่งกัน บรรณาการทั้ง 24 คนถูกปล่อยตัว และการแข่งขันจึงเริ่มต้น เพียงแค่ในวันแรกบรรณาการเขตต่างๆถูกฆ่าตายไปกว่าครึ่งนึงที่คอร์นูโคเปีย ส่วนแคตนิสใช้วิธีหนีออกห่างบรรณาการคนอื่นๆให้ไกลที่สุด แต่เธอถูกไฟป่าที่แคปปิตอลสร้างขึ้นไล่ต้อนจนทำให้บาดเจ็บสาหัส
2. The Hunger Games Catching Fire (2013) เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์
เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ (อังกฤษ: The Hunger Games: Catching Fire) เป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2556 เป็นภาคต่อมาจากภาพยนตร์ “เกมล่าเกม” กำกับโดย “ฟรานซิส ลอว์เรนซ์” และนำแสดงโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, จอช ฮัทเชอร์สัน, เลียม เฮมส์เวิร์ท, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, เอลิซาเบธ แบงส์, เลนนี่ แครวิตซ์, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน, สแตนลีย์ ทุชชี และ โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์ อ้างอิงเนื้อเรื่องมาจานิยายของ ซูซาน คอลลินส์ ที่มีชื่อว่า “ปีกแห่งไฟ” อำนวยการสร้างโดย นิน่า จาคอบสัน และจอน คิลิค เขียนบทภาพยนตร์ใหม่โดย ไซมอน โบฟอย กับ ไมเคิล อาร์นต์ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ประพันต์โดย เจมส์ นิวตัน ฮาเวิร์ด และจัดจำหน่ายโดย ไลออนส์เกท เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ “แคตนิส เอฟเวอร์ดีน” และ “พีต้า เมลลาร์ค” ที่ต้องเดินทางกลับสู่เขต 12 แต่ “ประธานาธิบดีสโนว์” พบว่าถูกกลุ่มคนเล็ก ๆ ท้าทายอำนาจ รวมถึงแคตนิสด้วย จึงตัดสินใจที่จะจัดเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 ด้วยการนำอดีตผู้ชนะจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน เพื่อหาผู้รอดเพียงคนเดียว ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ก็การเป็นชนวนสำคัญ ที่จะเปลี่ยนพาเน็มไปตลอดกาล
การถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555 จนถึงวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ที่ ฮาวาย แอตแลนตา และ ลอสแอนเจลิส ในสหรัฐอเมริกา โดยจัดฉายทั้งในโรงภาพยนตร์ทั่วไปรวมถึงโรงภาพยนตร์ดิจิตอลไอแมกซ์ โดยทำให้เสียงในภาพยนตร์มีคุณภาพ[9] และสี่ดีเอกซ์ ซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวของเก้าอี้ ลม สเปรย์น้ำ แฟลชฟ้าผ่า และเทคนิคกลิ่นพิเศษ ตามแต่ละฉากในภาพยนตร์ เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2013 ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ณ ประเทศฝรั่งเศส[14] มีการโปรโมตภาพยนตร์ที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการโปรโมตเวิลด์พรีเมียร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายครั้งแรก (ไม่นับการโปรโมตพรีเมียม) ที่บราซิลในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ที่ฟินแลนด์ และ นอร์เวย์ รอบปฐมทัศน์และบางประเทศรวมทั้งไทย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ส่วนสหรัฐอเมริกาฉายในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
3. Hunger Games 3 Part 1 (2014) เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท1
หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากสนามประลองที่ถูกทำลายในเกมล่าสังหารครั้งที่ 75 แคตนิส เอเวอร์ดีน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) พร้อมด้วยผู้ชนะคนอื่นๆ บีที (เจฟฟรีย์ ไรท์) และฟินนิค โอเดียร์ (แซม คลัฟลิน) ถูกนำตัวไปที่เขต 13 ซึ่งเป็นเขตอิสระที่แยกตัวจากส่วนที่เหลือของพาเน็มที่เป็นผู้นำการกบฏ ซึ่งที่นั่นเธอได้พบกับแม่และน้องสาวของเธอ พริม (วิลโลว์ ชิลด์ส) อีกครั้ง ในระหว่างพักฟื้น เธอได้รับการแนะนำให้รู้จักกับประธานาธิบดีอัลมา คอยน์ (จูเลียนน์ มัวร์) โดยเฮฟเวนส์บี (ฟิลิป ซีโมร์ ฮอฟฟ์แมน) หัวหน้ากลุ่มกบฏ และเธอได้รับแจ้งว่าการกระทำของเธอในสนามประลองทำให้เกิดการจลาจลและการโจมตีรัฐสภา พันเอกบ็อกส์เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเขต 13 รัฐสภาได้ทิ้งระเบิดลงบนพื้นผิวของเขต 13 แต่เนื่องจากพวกเขามีประสบการณ์ในด้านการทหาร พวกเขาจึงเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดใต้ดิน คอยน์ถามเธอว่าเธอจะกลายเป็น “ม็อกกิ้งเจย์” สัญลักษณ์ของการกบฏหรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “หัวใจและจิตใจ” ของพวกเขา บีทีแฮ็กเข้าไปในเครือข่ายการสื่อสารของแคปิตอลและสามารถเผยแพร่ข้อความนั้นได้ เฮฟเวนส์บีเสนอที่จะบันทึกวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อชุดหนึ่งเกี่ยวกับธีมม็อกกิ้งเจย์ โดยขอให้เขตต่างๆ ก่อกบฏต่อแคปิตอล แคทนิสปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
โดยเตือนเธออย่างโกรธเคืองว่าพวกเขาทิ้งพีต้า เมลลาร์ก (จอช ฮัทเชอร์สัน) คนรักในบทบาทของเธอและเพื่อนร่วมกลุ่มเขต 12 ไว้ในสนามประลอง เฮฟเวนส์บีไม่มีทางยืนยันได้ว่าพีต้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ตามคำแนะนำของพลูทาร์ก เฮฟเวนส์บี อดีตนักสร้างเกม เธอจึงถูกพาไปดูซากปรักหักพังของเขต 12 ซึ่งถูกทำลายจนราบคาบโดยการโจมตีด้วยระเบิดที่แคปิตอล (ยกเว้นบ้านในหมู่บ้านวิกเตอร์) เกล (เลียม เฮมส์เวิร์ธ) เดินทางไปกับแคตนิสในเที่ยวบินไปยังเขต 12 แคตนิสพบว่ารัฐสภาและประธานาธิบดีสโนว์ได้สังหารประชาชนในเขต 12 หลายพันคนเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการกระทำของแคตนิส แคตนิสพบแมวของพริมในหมู่บ้านวิกเตอร์และนำมันกลับมาด้วย แคตนิสพบดอกกุหลาบสีขาวในบ้านของเธอในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นคำเตือนจากสโนว์ และทันใดนั้น แคตนิสก็กลัวว่ามีคนคอยจับตาดูเธออยู่
สโนว์พูดกับพาเน็มและเตือนเขตต่างๆ ถึงสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างเขตต่างๆ กับเมืองหลวงตั้งแต่สมัยมืดมน เขาบอกว่าเขตต่างๆ จัดหาแรงงานและวัสดุ ในขณะที่แคปิตอลจัดหาความปลอดภัยและหลักนิติธรรม เขาห้ามใช้ภาพม็อกกิ้งเจย์และประหารชีวิตทุกคนที่สงสัยว่าเป็นผู้ประท้วงก่อนหน้านี้ แคทนิสเห็นว่าพีต้าถูกโทรทัศน์แห่งรัฐแคปิตอลใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามการกบฏ พีต้าขอร้องทุกคนว่าสงครามกลางเมืองไม่เป็นผลดีต่อใคร และกบฏควรวางอาวุธทันที แคทนิสเปลี่ยนใจอย่างไม่เต็มใจและตกลงที่จะเป็นม็อกกิ้งเจย์ของคอยน์ โดยมีเงื่อนไขว่าพีต้าและผู้ชนะคนอื่นๆ (โจฮันน่าและแอนนี่) จะต้องได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดและได้รับการอภัยโทษ และพริม น้องสาวของเธอจะต้องได้รับอนุญาตให้เลี้ยงแมวของเธอไว้ แคทนิสสังเกตว่าเขต 13 แทบไม่มีบุตรเลยและได้รู้ว่าบุตรส่วนใหญ่สูญหายไปจากโรคระบาดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
4. Hunger Games 3 Part 2 (2015) เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท 2
แคทนิส เอเวอร์ดีน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) กำลังฟื้นตัวหลังจากถูกพีต้า เมลลาร์ก (จอช ฮัทเชอร์สัน) โจมตี ซึ่งถูกแคปิตอลล้างสมอง พีต้าฟื้นตัวในระดับหนึ่งเช่นกัน แต่ยังคงถูกกักขังอยู่ เนื่องจากเขาอาจมีอาการต่างๆ เป็นครั้งคราว โดยเขาใช้ความรุนแรงและสาบานว่าจะฆ่าแคทนิส กบฏโจมตีและทำให้คลังอาวุธของแคปิตอลในเขต 2 ไร้ประสิทธิภาพ กบฏในเขต 2 นำโดยโฮมส์ ผู้บัญชาการไลม์ (กวินโดลีน คริสตี้) ผู้ชนะจากเขต 2 ในอดีต และผู้บัญชาการเพย์เลอร์ หากไม่ได้รับการควบคุมคลังอาวุธ แคปิตอลก็ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่คลังอาวุธได้รับการปกป้องอย่างดี (ถูกฝังลึกในภูเขา) และการโจมตีภาคพื้นดินก็เป็นการฆ่าตัวตาย แผนของกบฏคือใช้ภูเขาโดยรอบเพื่อกระตุ้นให้เกิดหิมะถล่มซึ่งจะฝังจุดเข้าและออกทั้งหมดสำหรับการสร้างคลังอาวุธ คลังอาวุธได้รับการปกป้องโดยพลเรือนจากเขต 2 และกลุ่มผู้ภักดีต่อรัฐสภา แค
ทนิสเชื่อว่าพวกกบฏกำลังใช้กลวิธีโหดร้ายแบบเดียวกับที่รัฐสภาเคยใช้กับเขตต่างๆ มาแล้ว เกลแย้งว่าใครก็ตามที่ทำงานให้กับรัฐสภาคือศัตรู คอยน์เสนอให้พวกเขาเปิดอุโมงค์รถไฟให้พลเรือนหลบหนีและยอมจำนนต่อกองกำลังกบฏ แคทนิสพยายามปลุกระดมผู้ภักดีต่อรัฐสภา (เธอแย้งว่าเมื่อเขตต่างๆ ต่อสู้กัน มีเพียงสโนว์เท่านั้นที่ชนะ เธอบอกว่าเธอทำเป็นทาสของรัฐสภาเสร็จแล้ว) แต่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บระหว่างการเผชิญหน้า ประธานาธิบดีสโนว์สั่งอพยพผู้คนออกจากชายแดนด้านนอกของรัฐสภาเพื่อให้กบฏเข้ามาได้ เขาเตรียมระบบป้องกันอากาศยานเพื่อรักษาความปลอดภัยบนท้องฟ้า และแผนของเขาคือใช้ผู้สร้างเกมเพื่อเอาชนะการต่อสู้กับกบฏบนท้องถนน เขาต้องการให้กบฏต้องจ่ายหนักสำหรับทุกตารางนิ้วที่พวกเขาเดินขบวนภายในรัฐสภาของเขา
แม้ว่าแคตนิสจะอยากฆ่าประธานาธิบดีสโนว์ (โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์) ด้วยตัวเอง แต่อัลมา คอยน์ (จูเลียนน์ มัวร์) ก็ไม่ยอมให้เธอเข้าร่วมการต่อสู้ คอยน์แย้งว่าเท่าที่พวกกบฏรู้ แคตนิสรอดชีวิตจากกระสุนปืนที่ยิงเข้าที่หัวใจ (ในความเป็นจริง เธอสวมเสื้อเกราะกันกระสุนอยู่) และพวกเขาจะเข้าใจถ้าไม่เห็นเธอในสนามรบ พลูทาร์ช เฮเวนส์บี (ฟิลิป ซีเมอร์ ฮอฟฟ์แมน) บอกว่าแคตนิสจะบินไปที่แคปิตอลเพื่อยอมจำนน ในงานแต่งงานของฟินนิก (แซม คลัฟลิน) และแอนนี่ โจฮันน่า เมสัน (จีน่า มาโลน) แนะนำให้แคตนิสแอบขึ้นเรือส่งเสบียงที่จะมุ่งหน้าไปยังแคปิตอล ซึ่งผู้บัญชาการเพย์เลอร์ (พาทิน่า มิลเลอร์) กำลังวางแผนการรุกราน ไม่สามารถนำแคตนิสกลับมาได้ คอยน์จึงมอบหมายให้เธอเข้าร่วม “หน่วยสตาร์” นำโดยบ็อกส์ (มาเฮอร์ชาลา อาลี)
และประกอบด้วยเกล (เลียม เฮมส์เวิร์ธ) ฟินนิค เครสซิดา (นาตาลี ดอร์เมอร์) เมสซัลลา (อีวาน รอสส์) แคสเตอร์ (เวส แชธัม) พอลลักซ์ (เอลเดน เฮนสัน) แจ็คสัน (มิเชลล์ ฟอร์บส์) ฝาแฝดลีก มิตเชลล์ และโฮมส์ (โอมิด อับตาฮี) พวกเขาจะตามไปอย่างปลอดภัย โดยช้ากว่าการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาจริงหลายวัน โดยจะถ่ายวิดีโอการบุกรุกเพื่อใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ สมาชิกในหน่วยแต่ละคนจะได้รับยาฆ่าตัวตายในกรณีที่ถูกจับ บ็อกส์พกแผนที่โฮโลแกรม (หรือ “โฮโล”) ไว้เพื่อช่วยให้พวกเขาหลบเลี่ยง “ฝัก” ระเบิดที่รู้จักกันซึ่งเรียงรายอยู่ตามถนนในอาคารรัฐสภา เพื่อป้องกันไม่ให้โฮโลตกไปอยู่ในมือของอาคารรัฐสภา อุปกรณ์แต่ละชิ้นจึงเต็มไปด้วยกลไกทำลายตัวเอง สงครามเพื่อชิงแคปิตอลนั้นเทียบได้กับเกมล่าสังหารครั้งที่ 76 คอยน์ยังส่งพีต้าเข้าร่วมหน่วยด้วย แม้ว่าเขาจะยังไม่ฟื้นตัวจากเงื่อนไขของแคปิตอลได้อย่างสมบูรณ์
5. The Hunger Games The Ballad of Songbirds & Snakes (2023) เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
เป็นภาพยนตร์แนวแอ็กชันไซไฟสัญชาติอเมริกันที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2023 กำกับโดย ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ จากบทภาพยนตร์โดย ไมเคิล อาร์นดท์ อิงจากนวนิยายชื่อ ลำนำแห่งนกร้องเพลงและอสรพิษ ในปี ค.ศ. 2020 โดย ซูซาน คอลลินส์ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น 64 ปี ก่อนเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ชุด เกมล่าเกม และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ของแฟรนไชส์ นำแสดงโดย ทอม บลายธ์, เรเชล เซกเลอร์, จอช อันเดรส ริเวรา, ฮันเตอร์ เชเฟอร์, เจสัน ชวาตซ์แมน ร่วมกับ ปีเตอร์ ดิงเคลจ และวิโอลา เดวิส เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม ออกฉายในสหรัฐวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 ภาพยนตร์ได้ทำข้อตกลงให้สามารถโปรโมทในช่วงสหภาพนักแสดงชาวอเมริกันได้หยุดงานประท้วง เพราะไลออนส์เกตไม่ได้เป็นสมาชิกของ AMPTP ที่สมาชิกถูกสั่งห้ามโปรโมทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์อย่างผสมไปจนถึงทางบวก นักวิจารณ์ชื่นชมงานสร้าง เรื่องราว ดนตรี เพลงประกอบ และการแสดง แต่ติด้านจังหวะการเล่าเรื่องและตอนจบที่รวบรัด ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับในแง่บวกในหมู่ผู้ชม ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทางพาณิชย์ ทำรายได้ทั่วโลก 338 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับเงินทุนสำหรับถ่ายทำด้วยภาษีของเยอรมัน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ใช้ทุนสร้างเพียง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินน้อยสุดของแฟรนไชน์ รายได้ดังกล่าวทำให้ภาพยนตร์ชุด เกมล่าเก
กลายเป็นแฟรนไชน์ที่ทำเงินทะลุ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แฟรนไชน์ทำเงินเป็นอันดับที่ 20 ของโลก ภาพยนตร์ออกฉายในไทยวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 เช่นเดียวกับภาคก่อน ๆ ภาพยนตร์เปิดตัวติดอันดับ 1 ในสัปดาห์ที่ฉายในประเทศไทย โดยมงคลเมเจอร์ ผู้จัดจำหน่ายของประเทศไทย โอลิเวีย โรดริโก ประพันธ์และขับร้อง “แคนต์แคตช์มีนาว” เพลงประกอบภาพยนตร์ ในขณะที่เรเชล เซกเลอร์ ขับร้องเพลงประกอบเป็นส่วนใหญ่ โดยเพลงของร็อดริโกติดอันดับ 56 ของบิลบอร์ดและได้รับการพิจารณา รางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมอีกด้วย ภาพยนตร์มีกำหนดเผยแพร่ใน วีดิทัศน์ตามคำขอของอเมริกา ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2023 โดยเป็นภาพยนตร์ที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในทุกแพลตฟอร์ม ส่วนในประเทศไทย TRUEID ในมกราคม ค.ศ. 2024 เดอะ ฮังเกอร์เกม รุ่งอรุณแห่งเกมล่าเกม ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยาย รุ่งอรุณแห่งการไล่ล่า (Sunrise on the Reaping) ซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์หลังจากเล่มดังกล่าว 40 ปีในช่วงควอเตอร์เควล การแข่งขันเกมล่าชีวิตที่ใน 25 ปีมีครั้งนึงซึ่งถูกกำหนดโดยคอริโอเลนัส สโนว์ ที่จะเพิ่มผู้เล่นเป็น 2 เท่า คือ 46 คน รอดแค่คนเดียว คือเฮย์มิตช์ อเบอร์นาธี ในช่วงวัยหนุ่ม และคนรัก เลนอร์ โดฟ วางจำหน่ายในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ.2025 ถูกประกาศพร้อมกันในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ.2024 โดยภาพยนตร์จะออกฉายในไทยวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ.2026
ทอม บลายธ์ รับบท คอริโอเลนัส สโนว์
ที่ปรึกษาของลูซี่ เกรย์ บรรณาการจากเขต 12 ในเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 และประธานาธิบดีพาเน็มในอนาคต (พากย์เสียงโดย ปริภัณฑ์ วัชรานนท์) ทอม เคียร์ บลายธ์ (อังกฤษ: Tom Keir Blyth; เกิด 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538) เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ ภาพยนตร์ของเขาได้แก่ สก็อตต์แอนด์ซิด คู่ซี้ทะยานฝัน (2018), เบเนดิคชัน (2021) และ เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม (2023) ผลงานทางโทรทัศน์เขาได้แสดงเป็นตัวละครนำในซีรีส์ของ Epix เรื่อง บิลลีเดอะคิด (2022) บลายธ์เกิดที่เบอร์มิงแฮมและเติบโตในวูดทอร์ป แถบชานเมืองน็อตติงแฮม เขาเป็นบุตรชายของโปรดิวเซอร์ กาวิน บลายธ์ ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อทอมอายุ 15 ปี หลังจากนั้น บลายธ์เข้าเรียนที่ โรงเรียนอาโนลด์ฮิลล์ และ วิทยาลัยบิลโบโรห์ นอกจากนี้ เขายังใช้เวลาเติบโตใน นอร์ธยอร์กเชอร์ โดยเข้าเรียนที่โรงเรียนประถมในท็อควิธ ชาร์ลอตต์ แม่ของเขา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านอาชีพ ได้ลงทะเบียนให้เขาเข้าเรียนวิชาละครที่ เทเลวิชั่นเวิร์คช็อป นอกจากนี้ เขายังได้เข้าร่วมโรงละครเยาวชนแห่งชาติด้วย เขาไปฝึกที่โรงเรียนจูลลี่อาร์ด ในนิวยอร์กซิตี้ ตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ โดยสำเร็จการศึกษาในปี 2020
เรเชล เซกเลอร์ รับบท ลูซี่ เกรย์ แบร์ด
บรรณาการจากเขต 12 ผู้มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับคอริโอเลนัส (พากย์เสียงโดย อรนุช ลาดพันนา) เกิดวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2544) เป็นนักแสดงและนักร้องชาวอเมริกัน เธอมีชื่อเสียงด้วยการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก โดยรับบทเป็น มาเรีย ในภาพยนตร์เพลงดัดแปลงของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก เวสต์ ไซด์ สตอรี่ (2021) ซึ่งทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงชาวละตินอายุน้อยที่สุดที่ได้รับ รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม – ภาพยนตร์ตลกหรือละครเพลง ในปี 2023 เธอรับบทเป็น แอนเธีย ใน ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า และ ลูซี่ เกรย์ แบร์ด ใน เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม โดยเรื่องหลังได้เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและทำรายได้มากที่สุดของเธอ ในปี 2022-2023 เธอนั้นถูกโจมตีจากสื่อและอินเทอร์เน็ตทั่วโลก จากการที่เธอเป็นนักแสดงละตินที่ได้รับบท ในภาพยนตร์คนแสดง สโนว์ไวท์ ภาพยนตร์ดัดแปลงจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องแรกของดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด โดยในงาน D23 ปี 2022 เธอได้แสดงความคิดเห็นต่อภาพยนตร์ต้นฉบับจนเกิดเป็นข้อวิจารณ์ไปถึงรูปลักษณ์หน้าตาของเธอ เซกเลอร์เผยกับสื่อในปี 2024 ว่าเธอถูกคุกคามชีวิตส่วนตัวเพราะเรื่องดังกล่าว โดยมีผู้คนบางกลุ่มไปดักทำร้ายเธอถึงที่พัก แม้เธอจะมีหลักฐานยืนยันว่าสิ่งที่เธอถูกโจมตีมาจากการคำพูดจากทางดิสนีย์เอง เธอเชื่อว่าสิ่งที่เธอเผชิญหน้าเกิดจาก “ความรัก” ต่อภาพยนตร์ต้นฉบับมากกว่า “ความเกลียดชัง” และยึดมั่นที่จะเป็นแบบอย่างของสังคมต่อไป
เจสัน ชวาตซ์แมน รับบท ลูเครเทียส “ลักกี้” ฟลิกเกอร์แมน
พิธีกรรายการโทรทัศน์ของเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 และบรรพบุรุษของซีซาร์ ฟลิกเกอร์แมน ผู้ซึ่งจะเป็นพิธีกรเกมล่าชีวิตในภายหลัง (พากย์เสียงโดย อภิชาติ สมุทคีรี) เจสัน แฟรนเซสโก ชวาตซ์แมน (อังกฤษ: Jason Francesco Schwartzman) เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1980 เป็นนักแสดงชาวอเมริกันและนักดนตรี เขาเป็นที่รู้จักจากบทบาทในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Rushmore, Spun, I love Huckabees, Shopgirl, Marie Antoinette, The Darjeeling Limited และ Funny People เขายังเป็นสมาชิกของวงโคโคนัตเรเคิดส์ ก่อนหน้านี้เคยเป็นมือกลองวงร็อกที่ชื่อวง แฟนทอมแพลนเนต ชวาตซ์แมนยังเป็นนักแสดงในซีรีส์ทางช่องเอชบีโอเรื่อง Bored to Death แสดงเป็นนักสืบที่ไม่ได้ใบอนุญาต นอกจากนี้เขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของ นิโคลัส เคจ และเป็นหนึ่งในตระกูลคอปโปลา อีกด้วย
ปีเตอร์ ดิงเคลจ รับบท คาสก้า ไฮบัททอม
คณบดีของอะคาเดมีและผู้ร่วมคิดค้นเกมล่าชีวิต (พากย์เสียงโดย เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) ปีเตอร์ เฮย์เดน ดิงเคลจ (อังกฤษ: Peter Hayden Dinklage; เกิด 11 มิถุนายน ค.ศ. 1969) เป็นนักแสดงและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ดิงเคลจศึกษาด้านการแสดงที่วิทยาลัยเบนนิงตัน แสดงในหลายเวทีสมัครเล่น ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือเรื่อง Living in Oblivion (1995) และผลงานแจ้งเกิดมาจากภาพยนตร์ตลก-ชีวิตเรื่อง The Station Agent (2003) หลังจากนั้นก็แสดงภาพยนตร์เรื่อง Elf (2003), Find Me Guilty (2006), Underdog (2007), Penelope (2008), Death at a Funeral (2007), The Chronicles of Narnia: Prince Caspian (2008), X-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต (2014) และ 3 บิลบอร์ด ทวงแค้นไม่เลิก (2017) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ในปี 2018 แสดงในบทไอทริในภาพยนตร์จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเรื่อง อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล และบท Hervé Villechaize ในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง My Dinner with Hervé หลังจากถ่ายตอนไพล็อตในปี 2009 ดิงเคลจรับบททีเรียน แลนนิสเตอร์ในซีรีส์ทางโทรทัศน์ทางช่องเอชบีโอเรื่อง มหาศึกชิงบัลลังก์ ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลไพรม์ไทม์เอมมี 3 รางวัล จากการเสนอรางวัล 7 ครั้งติดต่อกัน เขายังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากบทนี้ในปี 2012
วิโอลา เดวิส รับบท ดร.โวลัมเนีย กอล
หัวหน้าผู้คุมเกมของเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 ไวโอลา เดวิส (อังกฤษ: Viola Davis;เกิดวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1965) เป็นนักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน มีผลงานการแสดงทั้งทางภาพยนตร์,ละครโทรทัศน์และละครเวที โดยเธอเป็นหนึ่งในนักแสดงเพียง 24 คนและถือเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาเพียงคนเดียวที่ได้รับ “Triple Crown of Acting” คือการได้รับ 3 รางวัลที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดทั้งจากวงการภาพยนตร์ (รางวัลออสการ์), วงการละครโทรทัศน์ (รางวัลไพรม์ไทม์เอมมี) และวงการละครเวที (รางวัลโทนี) นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลแบฟตา และได้รับรางวัลแซกอวอร์ดถึง 6 ครั้ง โดยในปี 2017 เธอได้รับเกียรติให้ถูกจารึกไว้ในฮอลลีวูดวอล์กออฟเฟม[1] และได้รับการจัดอันดับโดยหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ให้อยู่ใน “25 อันดับนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21“
เดวิส จบการศึกษาในสาขาการละครจากวิทยาลัยโรดไอแลนด์ จากนั้นได้ศึกษาต่อทางด้านการแสดงจนจบการศึกษาจากโรงเรียนศิลปะการแสดงจูลลีอาร์ด นครนิวยอร์ก โดยเธอเริ่มต้นอาชีพนักแสดงจากการแสดงละครเวทีและได้แสดงบทตัวประกอบในละครโทรทัศน์ จนกระทั่งเริ่มมีผลงานการแสดงบทตัวประกอบในภาพยนตร์ เช่น ปล้นรัก หักด่านเอฟบีไอ (ค.ศ. 1998), คนไม่สะอาด อำนาจ อิทธิพล (ค.ศ. 2000), ข้ามเวลามาพบรัก (ค.ศ. 2001), สวรรค์ลิขิตพิศวาท, อังตวน ฟิชเชอร์ ผู้ชายเย้ยลิขิต (ค.ศ.2002), จ้อง หลอน…ซ่อนเงื่อนผวา (ค.ศ. 2007) จนกระทั่งการแสดงของเธอในบท “คุณนายมิลเลอร์” เรื่อง ปริศนาเกินคาดเดา (ค.ศ. 2008) ทำให้เธอเป็นที่จดจำได้อย่างกว้างขวางและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหลายรางวัล รวมถึงรางวัลออสการ์ในสาขา นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และรางวัลลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์
[/read]