ดูหนัง Jurassic World จูราสสิค เวิลด์ ทุกภาค จูราสสิค พาร์ค (อังกฤษ: Jurassic Park) ต่อมาเรียกว่า จูราสสิค เวิลด์ (อังกฤษ: Jurassic World)  เป็นสื่อแฟรนไชส์อเมริกันแนวบันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์ สร้างโดย ไมเคิล ไครช์ตัน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ความพยายามสร้างหายนะในการสร้างสวนสนุกของไดโนเสาร์โคลนนิง แฟรนไชส์เริ่มต้นใน ค.ศ. 1990 เมื่อ ยูนิเวอร์แซลพิกเจอส์และแอมบลินเอนเทอร์เทนเมนต์ ซื้อสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์จากนวนิยาย จูราสสิค พาร์ค ของไครช์ตัน ก่อนที่หนังสือจะตีพิมพ์ หนังสือและภาพยนตร์ซึ่งฉายเมื่อ ค.ศ. 1993 ต่างก็ประสบความสำเร็จ ภาพยนตร์ฉายใหม่ในรูปแบบสามมิติเมื่อ ค.ศ. 2013  และเมื่อ ค.ศ. 2018 ภาพยนตร์ถูกเลือกโดยหอสมุดรัฐสภาของสหรัฐให้เก็บรักษาไว้ในหอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ ในฐานะที่ภาพยนตร์ “มีวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, หรือ มีความสุนทรีย์อย่างมีนัยสำคัญ” นวนิยายภาคต่อ เดอะ ลอสต์ เวิลด์ วางจำหน่ายเมื่อ ค.ศ. 1995 ตามมาด้วยภาพยนตร์ เดอะ ลอสต์ เวิล์ด จูราสสิค พาร์ค ฉายเมื่อ ค.ศ. 1997 ภาพยนตร์เรื่องถัดมา จูราสสิค พาร์ค 3 (2001) ไม่ได้สร้างจากนวนิยาย

ภาพยนตร์ไตรภาคชุดที่สองเริ่มต้นด้วย จูราสสิค เวิลด์ ฉายเมื่อ ค.ศ. 2015 โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สี่ในภาพยนตร์ชุด ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำเงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั่วโลกในช่วงสุดสัปดาห์เปิดตัว และทำเงินมากกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตลอดช่วงเวลาที่ฉาย กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 3 ในช่วงเวลานั้นและเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 2 ใน ค.ศ. 2015[4] และปัจจุบันยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 8 เมื่อปรับค่าเงินตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว จูราสสิค เวิลด์ จะเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 2 ในแฟรนไชส์ตามหลัง จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ ภาพยนตร์ภาคต่อ จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย (2018) ทำเงินมากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก กลายเป็นภาพยนตร์ จูราสสิค เรื่องที่สามที่ทำเงินมากกว่าหนึ่งพันล้านและเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 3 ใน ค.ศ. 2018 และปัจจุบันยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 18 ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในไตรภาค จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร ฉายเมื่อ ค.ศ. 2022 ทำเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกและเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 3 ใน ค.ศ. 2022 จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สี่ในแฟรนไชส์ที่ทำเงินมากกว่าหนึ่งพันล้าน

มีวิดีโอเกมและหนังสือการ์ตูนมากมายที่สร้างจากแฟรนไชส์ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ภาพยนตร์ฉายเมื่อ ค.ศ. 1993 และมีเครื่องเล่นทางน้ำมากมายเปิดให้บริการหลายแห่งที่สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ เลโก้ ได้สร้างโครงการแอนิเมชันหลายเรื่องจากภาพยนตร์ จูราสสิค เวิลด์ รวมไปถึง จูราสสิค เวิลด์: เดอะเลกาซีออฟอิสลานูบลาร์ มินิซีรีส์ออกอากาศเมื่อ ค.ศ. 2019 ดรีมเวิกส์แอนิเมชัน ได้สร้างแอนิเมชันซีรีส์เรื่อง จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส ออกอากาศทาง เน็ตฟลิกซ์ ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2020 ถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2022 เมื่อ ค.ศ. 2000 แฟรนไชส์ทำเงิน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นหนึ่งในสื่อแฟรนไชส์ที่ทำเงินสูงสุด  แฟรนไชส์ จูราสสิค พาร์ค ยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ชุดที่ทำเงินสูงสุด โดยทำเงินมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก

[read more]

จูราสสิคมีทั้งหมดกี่ภาค

จูราสสิค พาร์ค 3 (2001)

จูราสสิคเวิลด์ (2015)

จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย (2018)

Battle at Big Rock (2019 – หนังสั้น)

Jurassic Park เป็นภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์จากงานเขียนอันสร้างสรรค์ขอ งไมเคิล ไครช์ตัน

นักเขียนนวนิยาย และผลงานการสร้างภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมของสตีเวน สปีลเบิร์ก ถือเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งในยุค 90 ต่อมามีภาคต่ออีก 2 ภาค และอีก 2 ทศวรรษต่อมา ไตรภาค Jurassic World ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และจากภาพยนตร์อีก 3 ภาค ทำให้รายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศรวมเพิ่มขึ้น 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากJurassic World Rebirth จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเดือนกรกฎาคม เราจึงได้จัดทำคู่มือเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อเรื่องของซีรีส์นี้ได้ดีขึ้น เลื่อนลงมาเพื่อดูวิธีรับชมภาพยนตร์ Jurassic Park ตามลำดับเวลา ตามลำดับเหตุการณ์ หรือวันที่ออกฉาย

ภาพยนตร์ Jurassic Park เรียงตามลำดับเวลา

ข้อความย่อเหล่านี้มีการสปอยล์เล็กน้อย รวมถึงตัวละคร ฉาก และเนื้อเรื่องคร่าวๆ

1. จูราสสิค พาร์ค (1993)

ลำดับเหตุการณ์ของ Jurassic Park นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา เนื่องจากลำดับการฉายของภาพยนตร์จะสอดคล้องกับลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงภาพยนตร์สั้นและซีรีส์ของ Netflix เท่านั้นที่อาจต้องการคำแนะนำเล็กน้อย Jurassic Park ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Michael Chrichton และสร้างโครงเรื่องของซีรีส์ขึ้นมาดังนี้ ไดโนเสาร์ถูกโคลนขึ้นมาโดยการสกัด DNA จากยุงยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เก็บรักษาไว้ในอำพัน และผู้ประกอบการที่บ้าบิ่นคนหนึ่ง (Richard Attenborough) กำลังใช้โคลนเหล่านี้เพื่อเติมเต็มสวนสนุกบนเกาะ Isla Nublar ที่เป็นเกาะสมมติ นักบรรพชีวินวิทยา อลัน แกรนท์ (แซม นีล) นักบรรพชีวินวิทยา เอลลี่ แซตเลอร์ (ลอร่า เดิร์น) และนักคณิตศาสตร์/นักก่อความวุ่นวาย เอียน มัลคอล์ม (เจฟฟ์ โกลด์บลัม) เดินทางมาถึงเกาะเพื่อประเมินความปลอดภัยของอุทยาน โดยมีเล็กซ์และทิม เมอร์ฟี หลานของจอห์น แฮมมอนด์ ผู้ก่อตั้งจูราสสิคพาร์คร่วมเดินทางด้วย พายุโซนร้อนพัดถล่มเกาะและผู้ก่อวินาศกรรมฆ่าผู้มีอำนาจในการขโมยความลับขององค์กร ส่งผลให้ระบบรักษาความปลอดภัยถูกปิดใช้งาน เมื่อไดโนเสาร์ถูกควบคุมตัวแล้ว ทัวร์เกาะจึงกลายเป็นภารกิจหลบหนีอันแสนอันตรายที่ต้องต่อสู้กับเวโลซิแรปเตอร์และไทรันโนซอรัสเร็กซ์

2. โลกที่สาบสูญ: จูราสสิค พาร์ค (1997)

The Lost World ซึ่งมีฉากหลังและออกฉายหลังจาก Jurassic Park สี่ปี ได้นำ Ian Malcolm ของ Goldblum และ John Hammond ของ Attenborough กลับมาแสดงร่วมกับ Sarah Harding นักบรรพชีวินวิทยาของ Julianne Moore อีกครั้ง The Lost World มีฉากหลังเป็นเกาะที่สองชื่อ Isla Sorna ซึ่งแฮมมอนด์ได้โคลนไดโนเสาร์ไว้ด้วย ในที่สุดเกาะนี้ก็ถูกทิ้งร้างและไดโนเสาร์ก็ถูกปล่อยให้ต่อสู้กันเอง การแย่งชิงอำนาจเพื่อควบคุมบริษัท InGen ของแฮมมอนด์ทำให้สองฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กันต้องมุ่งหน้าไปยังเกาะ Isla Sorna กลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยปีเตอร์ ลุดโลว์ (อาร์ลิสส์ ฮาวเวิร์ด) หลานชายของแฮมมอนด์ ต้องการลองแสวงหากำไรจากไดโนเสาร์อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน แฮมมอนด์ มัลคอล์ม และฮาร์ดิง มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนเกาะแห่งนี้ให้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่สามารถศึกษาสัตว์ต่างๆ ได้โดยไม่ถูกมนุษย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันท่ามกลางฉากหลังของไดโนเสาร์ที่ไม่ถูกขังและครอบครองอาณาเขต ซึ่งส่งผลให้เกิดการไล่ล่าที่ดุเดือดและการเสียชีวิตเป็นครั้งคราว ผู้แสวงหาประโยชน์ประสบความสำเร็จในการจับไดโนเสาร์ทีเร็กซ์เพื่อขนส่งไปยังสวนสาธารณะแห่งใหม่ในซานดิเอโก ซึ่งหลบหนีจากการถูกกักขังและสร้างความหายนะให้กับเมือง มัลคอล์มและฮาร์ดิงพยายามจับมันโดยไม่ใช้ความรุนแรง

3. จูราสสิค พาร์ค 3 (2001)

แซม นีลกลับมารับบทอลัน แกรนท์อีกครั้งในภาคที่ 3 ของซีรีส์นี้ โดยมีเอลลี แซตเลอร์ รับบทโดยลอร่า เดิร์น กลับมารับบทนี้เช่นกัน แม้ว่าจะมีบทบาทที่น้อยกว่ามากก็ตาม ช่วงเวลา 4 ปีผ่านไปนับตั้งแต่ The Lost World มาถึง Jurassic Park 3 ทั้งในโลกแห่งความจริงและในจักรวาล Jurassic Park 3 กลับมาอีกครั้งบนเกาะ Isla Sorna ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชายคนหนึ่งและเด็กชายคนหนึ่งหายตัวไป แกรนท์ซึ่งต้องการเงินเพื่อการวิจัยไดโนเสาร์อย่างต่อเนื่อง ยอมรับที่จะพาเฮลิคอปเตอร์ทัวร์รอบเกาะเพื่อแลกกับเงินทุน เราได้รู้ว่าทัวร์นี้เป็นภารกิจกู้ภัยที่จัดทำขึ้นโดยพ่อแม่ของเด็กชายที่หายตัวไป ตามที่คาดไว้ ไดโนเสาร์ต้อนรับมนุษย์ด้วยความเป็นศัตรู กลุ่มนี้ต้องเผชิญหน้ากับฝูงเวโลซิแรปเตอร์ ซึ่งพวกมันต้องเอาชนะและหลบเลี่ยงเพื่อตามหาผู้สูญหาย ในที่สุดแกรนต์ก็ติดต่อเซ็ตเลอร์เพื่อประสานงานภารกิจกู้ภัย

4. จูราสสิคเวิลด์ (2015)

Jurassic World ออกฉายหลังจาก Jurassic Park ภาคแรก 22 ปี และกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล อย่างรวดเร็ว หลังจากออกฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้พาผู้ชมย้อนเวลากลับไปยังเกาะ Isla Nublar ซึ่งมีสวนสนุกไดโนเสาร์แห่งใหม่เปิดให้บริการ Jurassic World นำแสดงโดย Chris Pratt รับบทเป็นนักพฤติกรรมสัตว์/ผู้ฝึกสอนเวโลซิแรปเตอร์ Owen Grady และ Bryce Dallas Howard รับบทเป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของ Jurassic World Claire Dearing หลานชายสองคนของแคลร์ออกสำรวจอุทยานด้วยตัวเอง ในขณะที่ไดโนเสาร์ยักษ์ที่ดัดแปลงพันธุกรรมอย่างอินโดมินัสเร็กซ์หนีจากการถูกจองจำ แคลร์และโอเว่นจึงออกผจญภัยไปช่วยเด็กๆ ขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลงและมีไดโนเสาร์ตัวอื่นเข้าร่วมด้วย เมื่อเด็กๆ ปลอดภัยแล้ว เรื่องราวก็มุ่งไปที่การปราบอินโดมินัส เร็กซ์ โอเวนได้รับมอบหมายให้เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายด้วยเวโลซิแรปเตอร์ที่ฝึกมา แต่กลับไม่เป็นไปตามแผน จุดไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเผชิญหน้าครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างอินโดมินัสและทีเร็กซ์ มนุษย์ที่รอดชีวิตหลบหนี และการทดลองสวนสนุกไดโนเสาร์ครั้งยิ่งใหญ่ก็ต้องปิดตัวลงอีกครั้ง

4a. Jurassic World: Camp Cretaceous (ซีรี่ส์ทางทีวี – 2020)

Jurassic World: Camp Cretaceous เป็นซีรีส์แอนิเมชั่นสำหรับครอบครัวจาก Netflix ไม่จำเป็นต้องดูก็ได้ แต่เราได้รวมเอาไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ Jurassic Park เต็มรูปแบบ Camp Cretaceous ออกอากาศมาทั้งหมด 5 ซีซั่น และดำเนินเรื่องในช่วงเหตุการณ์ของไตรภาค Jurassic World ซีรีส์นี้ติดตามเด็กๆ 6 คนที่ไปค่าย Cretaceous บนเกาะ Isla Nublar ไดโนเสาร์หลุดออกมาและเด็กๆ ต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง ซีรีส์เรื่องนี้มีการอ้างอิงและเชื่อมโยงกับภาพยนตร์มากมาย ซึ่งหลายเรื่องได้รับการบันทึกไว้โดยSYFYโดยรวมแล้ว Camp Cretaceous ไม่ค่อยเน้นไปที่การขับเคลื่อนเนื้อเรื่องโดยรวมของ Jurassic World แต่เน้นไปที่ประสบการณ์เหตุการณ์ในไตรภาคจากมุมมองที่แตกต่างออกไป

5. จูราสสิคเวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย (2018)

อย่างที่คุณอาจสังเกตเห็นแล้ว ช่องว่างเวลาในชีวิตจริงระหว่างภาพยนตร์ Jurassic นั้นสอดคล้องกับช่องว่างเวลาในจักรวาล ดังนั้น Falling Kingdom จึงดำเนินเรื่องหลังจาก Jurassic World สามปี Fallen Kingdom ยังคงสำรวจอันตรายของการแสวงหาผลประโยชน์จากไดโนเสาร์ Jeff Goldblum กลับมารับบทเป็น Ian Malcolm อีกครั้ง การปะทุของภูเขาไฟคุกคามชีวิตของไดโนเสาร์บนเกาะนูบลาร์ มัลคอล์มสนับสนุนการแก้ไขการสร้างไดโนเสาร์ในปัจจุบันที่ผิดธรรมชาติโดยปล่อยให้ไดโนเสาร์ตายในเหตุการณ์ดังกล่าว แคลร์ เดียริงสนับสนุนให้ช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ผ่านกลุ่มพิทักษ์ไดโนเสาร์ของเธอ เมื่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติให้ไดโนเสาร์ตาย แคลร์จึงร่วมมือกับเบนจามิน ล็อควูด (เจมส์ ครอมเวลล์) เพื่อช่วยเหลือพวกมัน เธอจึงขอให้โอเวน เกรดี้สนับสนุนเหตุการณ์ดังกล่าว เราได้เรียนรู้ถึงแรงจูงใจแอบแฝงภายในกลุ่มกู้ภัยและค้นพบว่าเทคโนโลยีการโคลนนิ่งของซีรีส์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ไดโนเสาร์เท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยไดโนเสาร์จำนวนมากที่ได้รับอิสระและมนุษยชาติกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่สายพันธุ์ทั้งสองจะต้องอยู่ร่วมกัน

6. Battle at Big Rock (หนังสั้น – 2019)

Battle at Big Rock เป็นภาพยนตร์สั้นความยาว 10 นาทีที่เขียนบทและกำกับโดย Colin Trevorrow จาก Jurassic World โดยเล่าเหตุการณ์ระหว่าง Fallen Kingdom และ Dominion หนึ่งปีหลังจาก Fallen Kingdom โดยเล่าถึงการเผชิญหน้าครั้งสำคัญครั้งแรกระหว่างไดโนเสาร์และมนุษย์หลังจากเหตุการณ์ใน Fallen Kingdom หนังสั้นความยาว 10 นาทีนี้จบลงด้วยคลิปการเผชิญหน้าระหว่างมนุษย์กับไดโนเสาร์ในช่วงแรกๆ

7. Jurassic World: Chaos Theory (ซีรีส์ทางทีวี – 2024)

Jurassic World: Chaos Theory เป็นภาคต่อของซีรีส์อนิเมชั่นบน Netflix เรื่องก่อนหน้าของแฟรนไชส์ ​​Jurassic World: Camp Cretaceous Chaos Theory นำตัวละคร “Nublar Six” จาก Camp Cretaceous กลับมาพบกันอีกครั้งในภาพยนตร์ระทึกขวัญลึกลับที่ดำเนินเรื่องหลังจากประสบการณ์บนเกาะ Isla Nublar นานถึง 6 ปี โดยเป็นเรื่องราวก่อนหน้า Jurassic World Dominion ในไทม์ไลน์ของแฟรนไชส์

8. Jurassic World Dominion: The Prologue (ภาพยนตร์สั้น – 2021)

The Prologue เป็นภาพยนตร์สั้นความยาว 5 นาทีที่ถ่ายทำในช่วงเริ่มต้นของ Jurassic World Dominion ซึ่งต่อมาได้ตัดต่อและนำมาทำเป็นภาพยนตร์ตัวอย่างสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ IMAX ปัจจุบันสามารถรับชมออนไลน์ในรูปแบบภาพยนตร์สั้นแยกเรื่องหรือเป็นส่วนหนึ่งของ Jurassic World Dominion Extended Edition ได้แล้ว หนังสั้นเรื่องนี้เปิดเรื่องเมื่อ 65 ล้านปีก่อน โดยเล่าถึงสัตว์ในยุคครีเทเชียส กิกาโนโตซอรัสต่อสู้กับทีเร็กซ์ และผู้แพ้ถูกยุงดูดเลือด…. ครึ่งหลังของหนังสั้นเรื่องนี้ดำเนินเรื่องในยุคปัจจุบัน ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ไล่ตามทีเร็กซ์ที่หลุดออกมาในโรงภาพยนตร์ไดรฟ์อิน

9. จูราสสิค เวิลด์ โดมิเนียน (2022)

เนื่องจาก Dominion เพิ่งออกฉาย เนื้อเรื่องย่อจึงคลุมเครือเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการสปอยล์ Dominion เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในไตรภาค Jurassic World ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Fallen Kingdom ซึ่งเป็นโลกที่มนุษย์และไดโนเสาร์อยู่ร่วมกัน เรื่องราวเกิดขึ้น 4 ปีหลังจาก Fallen Kingdom และเชื่อมโยงตัวละครที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากไตรภาคทั้งสองของแฟรนไชส์เข้าด้วยกัน ได้แก่ Owen Grady (รับบทโดย Pratt), Claire Dearing (รับบทโดย Howard), Ian Malcolm (รับบทโดย Goldblum), Alan Grant (รับบทโดย Neill) และ Ellie Sattler (รับบทโดย Dern) การที่ไดโนเสาร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาตินั้นมีผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมากและนำไปสู่ปัญหาทางจริยธรรมมากมาย แคลร์และโอเวนทำงานเพื่อสวัสดิภาพของไดโนเสาร์ ในขณะที่บริษัทพันธุกรรม Biosyn แสวงหากำไรจากสัตว์เหล่านี้ ในพื้นที่อื่น ตั๊กแตนยักษ์กำลังทำลายพืชผลทั่วสหรัฐอเมริกา เอลลี่และอลันทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างตั๊กแตนกับ Biosyn

ภาพยนตร์ Jurassic Park ในอนาคต

หนังเรื่องต่อไปของแฟรนไชส์นี้ คือ Jurassic World Rebirth ซึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 2 กรกฎาคม ตามที่แสดงในตัวอย่างอย่างเป็นทางการใหม่ Rebirth ดำเนินเรื่อง 5 ปี หลังจากเหตุการณ์ใน Dominion และติดตามทีม “ที่แข่งขันกันเพื่อหาตัวอย่าง DNA จากสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา 3 ชนิดบนบก ในทะเล และในอากาศ” ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Gareth Edwards (Rogue One, Godzilla) และนำแสดงโดย Scarlett Johansson รับบทผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติการลับ Zora Bennett, Mahershala Ali รับบทหัวหน้าทีม Duncan Kincaid และ Jonathan Bailey รับบทนักบรรพชีวินวิทยา Dr. Henry Loomis มีข่าวลือว่าหนังเรื่องใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากนวนิยาย Jurassic Park ต้นฉบับ

ข้อแตกต่าง Jurassic Park กับ Jurassic World

ไตรภาค Jurassic Park

1. Jurassic Park (1993) กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์

2. The Lost World: Jurassic Park (1997) ใครว่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์

3. Jurassic Park III (2001) ไดโนเสาร์พันธุ์ดุ

ไตรภาค Jurassic World

1. Jurassic World (2015) จูราสสิค เวิลด์

2. Jurassic World: Fallen Kingdom (2018) จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย

3. Jurassic World: Dominion (2022) จูราสสิค เวิลด์: ทวงคืนอาณาจักร

สำหรับตัวอย่างภาพยนตร์ The Jurassic World: Dominion เผยให้เห็นการกลับมาของไดโนเสาร์ที่คุ้นเคยอย่าง Compsognathus และ Dilophosaurus พร้อมกับสายพันธุ์ใหม่ที่น่าทึ่ง ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนในภาคไหน ๆ ด้วย จะมีสายพันธุ์อะไรบ้างนั้น

1. พาราซอโรโลฟัส (Parasaurolophus)

เป็นไดโนเสาร์กินพืชที่แฟน ๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเคยปรากฏตัวมาแล้วทั้งในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park และ Jurassic World: Fallen Kingdom ลักษณะเด่นของพาราซอโรโลพัส คือ หงอนที่มีลักษณะเหมือนท่อกลวงยาว บางตัวอาจจะมีหงอนยาวถึง 1.5 เมตร มีไว้ส่งเสียงหาพวก สามารถเดินได้ทั้ง 2 เท้าและ 4 เท้า มีขนาดใหญ่โตพอสมควร เท่าที่ค้นพบไดโนเสาร์พันธุ์นี้จะมีความยาวประมาณ 10 เมตร และมักจะอยู่กันเป็นฝูง

2. อะแพโทซอรัส (Apatosaurus)

เป็นสกุลของไดโนเสาร์ซอโรพอดกินพืชที่มีขนาดตัวใหญ่โตมาก เมื่อโตเต็มที่จะยาวถึง 22-23 เมตร และสูงกว่า 4 เมตร เรียกได้ว่าเป็นพี่เบิ้มสูสีกับดิพโพลโดคัสได้เลย แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยตรงที่อะแพโทซอรัสจะมีขาหน้าที่สั้นกว่า หางยาว และไม่มีจมูกที่เด่นชัดเท่า ซึ่งเจ้าคอยาวสายพันธุ์นี้เคยปรากฏตัวมาแล้วก่อนจะถูกเจ้ายักษ์ดุร้ายอินโดไมนัส เร็กซ์ขย้ำเข้าให้ใน Jurassic World

3. ไดโนนีคัส (Deinonychus)

เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ฉลาดและว่องไว มีความยาวประมาณ 2-5 เมตร หนัก 73 กิโลกรัม ชอบอยู่เป็นฝูง และออกล่าเหยื่อเป็นกลุ่มเหมือนหมาป่า อาวุธคือเล็บเท้าแหลมคมเหมือนใบมีดที่พับเก็บได้และฟันที่คมกริบ ในตัวอย่างภาพยนตร์จะพบว่าสายพันธุ์นี้ชอบโผล่มาโจมตีมนุษย์เป็นหลัก มีนิสัยหวงลูก และถ้าบอกว่า สายพันธุ์นี้คือ เจ้าตัวแสบเวโลซีแรปเตอร์ (Velociraptor) หลายคนคงจะร้อง อ๋อ ! เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีความคล้ายคลึงกัน ทำให้มีการนำชื่อนี้มาใช้เพื่อให้ดูน่าทึ่งยิ่งขึ้นใน Jurassic Park, Jurassic World และนวนิยายต้นฉบับโดย Michael Crichton นั่นเอง

4. โมซาซอรัส (Mosasaurus)

ผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องทะเลอย่างโมซาซอรัส ที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรกัดกระชากลากเรือประมงให้หายวับไปในเกลียวคลื่น เราคิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกับที่เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์ Jurassic World ทั้ง 2 เรื่องก่อนหน้านี้ ความน่าเกรงขามของมันอยู่ที่ฟันอันแหลมคมและกรามที่ใหญ่อย่างเหลือเชื่อ ทำให้มันอาจจะกลายเป็นตัวอันตรายที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตของ Dominions ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าก่อนหน้านี้สามารถกินอินโดไมนัส เร็กซ์ได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว

5. ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ (Tyrannosaurus Rex)

ถ้าเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับไดโนเสาร์ แล้วขาดเจ้าไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ หรือ ทีเร็กซ์ ไป ก็คงไม่ได้ เพราะสายพันธุ์นี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์โลกจูราสสิค และอยู่ในตำแหน่งของราชาแห่งไดโนเสาร์ตัวร้าย ยักษ์ใหญ่ที่กินเนื้อเป็นอาหาร คู่ต่อสู้ที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ และพันธมิตรที่น่าสะพรึงกลัว

6. คอมป์ซอกนาทัส (Compsognathus)

จิ๋วแต่แจ๋วของจริง สำหรับ คอมป์ซอกนาทัส ไดโนเสาร์พันธุ์เล็กที่มีขนาดลำตัวเพียง 70 เซนติเมตรและน้ำหนักเพียง 3 กิโลกรัม แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อันตรายที่สุด เคยปรากฏตัวมาแล้วทั้งใน The Lost World, Jurassic Park III และ Fallen Kingdom สำหรับในตัวอย่าง Dominion แม้จะโผล่แว้บ ๆ มาเป็นซากโครงกระดูกฟอสซิล แต่ก็มีแนวโน้มว่าเจ้าคอมป์ซอกนาทัสน่าจะมีการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และมาสร้างความปั่นป่วนในภาคนี้ได้เช่นกัน

7. เทอริสิโนซอรัส (Therizinosaurus)

ถือว่าเป็นน้องใหม่ในภาพยนตร์แฟรนไชส์จูราสสิค กับเทอริสิโนซอรัส ไดโนเสาร์ในกลุ่มคอยาวที่กินพืช แต่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามันกินเนื้อ เพราะเล็บที่ยาวกว่า 70 เซนติเมตรซึ่งมีไว้เอื้อมถึงพืชพรรณมากกว่าที่จะล่าเหยื่อ และเดิน 2 ขาเหมือนไดโนเสาร์กินเนื้อ โดยรวมแล้วเป็นไดโนเสาร์ที่แปลกประหลาดอย่างยิ่งเนื่องจากเทอริสิโนซอรัสมีขนและจงอยปาก ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับนกก็เป็นได้

8. อัลโลซอรัส (Allosaurus)

ไดโนเสาร์นักล่า 2 เท้า ที่อาจถูกมองว่าเป็นไทแรนโนซอรัส เร็กซ์รุ่นเล็ก แต่ทั้ง 2 สายพันธุ์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย อัลโลซอรัส นั้นมีขนาดความยาวประมาณ 8.5 เมตร สูงประมาณ 2.7-3.2 เมตร แต่ก็มีพบขนาดใหญ่ที่สุดมากกว่า 10.5 เมตร น้ำหนักเกิน 2 ตัน เหนือหัวของอัลโลซอรัสมีปุ่มเขาขนาดเล็กเหนือดวงตา ขากรรไกรอ้าได้กว้างถึง 92 องศา พร้อมด้วยฟันที่มีลักษณะเป็นใบเลื่อยเรียงรายอยู่ กระโหลกของมันนั้นสามารถรับแรงกระแทกได้มาก ดังนั้นเมื่อมันล่าเหยื่อมันจะใช้กะโหลกฟาดลงบนตัวเหยื่อคล้ายขวานที่จามลงบนไม้ ใครที่เคยดู Fallen Kingdom มาแล้ว คงจะจำกันได้ว่ามีเจ้าตัวร้ายที่หนีออกมาจากภูเขาไฟที่ปะทุ นั่นแหละ อัลโลซอรัส

9. เควตซัลโคแอตลัส (Quetzalcoatlus)

ทำเอาหลายคนอ้าปากค้างในขนาดที่มหึมาของเจ้านกยักษ์ที่โฉบลงมาจากท้องฟ้าเพื่อทำลายเครื่องบินในตัวอย่างภาพยนตร์ Dominion เพราะไดโนเสาร์สายพันธุ์เควตซัลโคแอตลัสนับเป็นหน้าใหม่ในโลกจูราสสิคที่ไม่เคยปรากฏตัวในภาคไหน ๆ มาก่อน โดยสายพันธุ์นี้จัดเป็นกลุ่มเทอโรซอร์สกุลใหม่ขนาดใหญ่ กินเนื้อสัตว์ขนาดเล็ก อาจรวมถึงกิ้งก่าหรือแม้แต่ลูกไดโนเสาร์ และแม้ว่าพวกมันจะไม่ใช่ไดโนเสาร์ตามพันธุกรรม แต่ก็ถือว่าเป็นสัตว์ร้ายที่บินได้ และเป็นนักล่าที่น่าสะพรึงกลัวด้วย

10. เทอราโนดอน (Pteranodon)

อีกหนึ่งสายพันธุ์สัตว์เลื้อยคลานมีปีกและบินได้ ที่หลายคนคุ้นเคยกับ เทอราโนดอน ที่เคยปรากฏตัวมาแล้วในภาพยนตร์ Jurassic Park และ Jurassic World รวมถึง Jurassic Park: The Lost World ด้วย สิ่งมีชีวิตที่มีปีกตัวเล็กกว่าเควตซัลโคแอตลัสแต่มีความสามารถไม่น้อยในอากาศ มีหงอนแหลมบนหัวและปากเหมือนหอกเป็นเอกลักษณ์ ที่พร้อมจะสร้างความโกลาหลด้วยอุปนิสัยที่เกรี้ยวกราดดุร้าย

11. ไดโลโฟซอรัส (Dilophosaurus)

ไดโลโฟซอรัส เจ้ากิ้งก่ามีหงอน หนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่อันตรายที่สุด มีความยาวประมาณ 6-7 เมตร มีฟันหน้าอันแหลมคม ส่วนหงอนบนหัวไว้สำหรับโอ้อวดตัวเมีย เวลาผสมพันธุ์ สายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักจากการปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park โดยได้มีการแสดงว่า เจ้าไดโลโฟซอรัสสามารถกางแผงคอและพ่นพิษออกจากปากได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงเพื่อการเพิ่มอรรถรสในการชมเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเจ้ากิ้งก่าสีสันสดใสนี้สามารถพ่นพิษหรือกางแผงคอได้

12. นาซูโตเซอราท็อปส์ (Nasutoceratops)

อีกหนึ่งไดโนเสาร์มีเขาสายพันธุ์กินพืช ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับไทรเซอราท็อปส์และซิโนเซราทอปส์ แต่เจ้านาซูโตเซอราท็อปส์จะมีขนาดใหญ่กว่า แต่มีเขาที่สั้นกว่า ซึ่งยื่นออกมาจากเกราะกระดูกที่อยู่บริเวณหัว และมีอุปนิสัยที่ก้าวร้าวกว่า เห็นได้ชัดจากตัวอย่าง Dominion ว่าน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นแล้วกระตุ้นให้เจ้าสามเขาตัวเบิ้มนี้โมโหเกรี้ยวกราดอย่างมาก ที่สำคัญเรายังไม่เคยเห็นสายพันธุ์นี้ในโลกจูราสสิคภาคไหน ๆ มาก่อนด้วย ทำให้ต้องมาลุ้นกันดูว่ารถถังดึกดำบรรพ์ตัวนี้จะบดขยี้อะไรไปบ้าง

13. กิก้าโนโตซอรัส (Giganotosaurus)

เป็น 1 ใน 3 สายพันธุ์ไดโนเสาร์กินเนื้อใหญ่สุด ลักษณะภายนอกอาจจะคล้ายกับไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ แต่มีความยาวมากกว่า (ตั้งแต่หัวถึงหางยาวประมาณ 12-13.5 เมตร) และน้ำหนักอยู่ระหว่าง 4.2-14 ตัน รวมถึงมีหัวที่หยักกว่า เน้นวิธีการล่าเป็นฝูงแบบเฉพาะกิจ โดยจะรอให้พวกเดียวกันมารวมจนได้จำนวนที่มากพอ และค่อยล่าเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์กินพืช

4 ปีให้หลังจากที่อาณาจักรอิสลาร์ นูบลาร์ล่มสลาย ไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ถูกปล่อยสู่ธรรมชาติ ทำให้ประชากรไดโนเสาร์แพร่กระจายไปทั่วโลก มีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไปจนถึงการสร้างความหวาดกลัวต่ออารยธรรมมนุษย์ แม้ว่าจะพยายามอยู่ร่วมกันแต่ก็มีสัญญาณที่แสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าธรรมชาติไม่สมดุล และโลกนี้อาจไม่รอดจากการปะทะกันของเหล่า Dominion ในอดีตและปัจจุบัน

[/read]