หนัง Marvel Universe  จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (อังกฤษ: Marvel Cinematic Universe (MCU)) เป็นภาพยนตร์ชุดแนวซูเปอร์ฮีโรสัญชาติอเมริกัน สร้างโดยมาร์เวลสตูดิโอส์ ดัดแปลงจากตัวละครที่ปรากฏในสิ่งพิมพ์ของมาร์เวลคอมิกส์ ภาพยนตร์ในภาพยนตร์ชุดนี้ดำเนินเรื่องอยู่ในจักรวาลร่วมกัน ภาพยนตร์เริ่มต้นถ่ายทำตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 จนถึงปัจจุบัน มาร์เวลสตูดิโอส์ ได้ถ่ายทำและฉายภาพยนตร์แล้วทั้งหมด 35 เรื่อง โดยมีภาพยนตร์อย่างน้อย 10 เรื่องกำลังอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ของการพัฒนา และเป็นภาพยนตร์ชุดที่ทำเงินสูงที่สุดตลอดกาล โดยทำเงินทั่วโลกมากกว่า 3.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึง อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ก็เคยกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดในช่วงเวลาที่ฉาย

เควิน ไฟกี เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ทุกเรื่องในภาพยนตร์ชุด ร่วมกับ อาวี อาราด ในภาพยนตร์สองเรื่องแรกที่ฉาย, เกล แอนน์ เฮิร์ด ใน มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง, เอมี ปาสคาล ใน ภาพยนตร์สไปเดอร์-แมน, สตีเวน บรูสซาร์ด ใน แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ กับ แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์: ตะลุยมิติควอนตัม, โจนาธาน ชวาร์ตซ์ ใน ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์, เนต มัวร์ ใน ฮีโร่พลังเทพเจ้า, แบล็ค แพนเธอร์: วาคานด้าจงเจริญ และ กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่, แบรด วินเดอร์บอม ใน ธอร์: ด้วยรักและอัสนี, ไรอัน เรย์โนลส์, ชอว์น เลวีและลอเรน ชูเลอร์ ดอนเนอร์ ใน เดดพูล & วูล์ฟเวอรีน และ มัลคอล์ม สเปลแมน ใน ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่ ภาพยนตร์เขียนบทและกำกับโดยหลากหลายคนและมักประกอบด้วยนักแสดงนำจำนวนมาก

จักรวาล Marvel นั้นมีพื้นฐานมาจากโลกแห่งความเป็นจริงเป็นอย่างมาก โลกในจักรวาล Marvel มีคุณลักษณะทั้งหมดของโลกแห่งความเป็นจริง: ประเทศเดียวกัน บุคคลที่มีชื่อเสียงเหมือนกัน (นักการเมือง ดาราภาพยนตร์ ฯลฯ) เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เหมือนกัน (เช่น สงครามโลกครั้งที่สอง) และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม จักรวาลนี้ยังมีองค์ประกอบสมมติอื่นๆ อีกมากมาย: ประเทศต่างๆ เช่นวากานดาและลัตเวอเรีย (ประเทศเล็กๆ) และองค์กรต่างๆ เช่น SHIELD ซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับและศัตรูของมัน HYDRAและAIMในปี 2009 Marvel ได้อธิบายภูมิศาสตร์ของโลก

อย่างเป็นทางการในมินิซีรีส์สองส่วนที่เรียกว่าMarvel Atlas ที่สำคัญที่สุด Marvel Universe ยังรวมเอาตัวอย่างจากนิยายวิทยาศาสตร์และแฟนตาซี ที่สำคัญเกือบทั้งหมด โดยนักเขียนได้เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มนุษย์ต่างดาว เทพเจ้า เวทมนตร์ พลังจักรวาล และเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาโดยมนุษย์ล้วนมีอยู่ใน Marvel Universe ทั้งสิ้น (จักรวาลที่รวมเอาองค์ประกอบแฟนตาซีเหล่านี้ทั้งหมด เข้าด้วยกันนั้นค่อนข้างหายาก อีกตัวอย่างหนึ่งคือ DC Universe ) มอนสเตอร์ยังมีบทบาทสำคัญกว่าด้วยต้นกำเนิดของเวทมนตร์คาถา เวทมนตร์ที่แปลกประหลาด และหลักการสำแดงพลังใน Marvel Universe ในเอเชียตะวันออก ตัวอย่างหนึ่งคือFin Fang Foom ซึ่งเกิดขึ้นจากเถ้าถ่านของเวทมนตร์ตันตระ ด้วยองค์ประกอบพิเศษเหล่านี้ โลกใน Marvel Universe จึงเป็นแหล่งรวมของ ซูเปอร์ฮีโร่

ความน่าสนใจของหนัง Marvel Universe

หนัง Marvel Universe ไม่เพียงแต่เป็นการนำตัวละครจากหนังสือการ์ตูนมาทำเป็นภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างจักรวาลที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อนและน่าสนใจ ตัวละครแต่ละตัวมีประวัติศาสตร์และพื้นหลังที่น่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งภายในของตัวละคร ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร หรือการพัฒนาของตัวละครที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในแต่ละเรื่อง หนึ่งในความน่าสนใจของหนัง Marvel Universe คือการที่ผู้ชมสามารถสัมผัสกับความลึกของตัวละครและเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ความขัดแย้งที่ซับซ้อน หรือการพัฒนาของตัวละครที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในแต่ละเรื่อง

[read more]

ณ เวลานี้ จักรวาลภาพยนตร์ของมาร์เวล เดินทางเข้ามาสู่เฟสที่ 5 แล้ว โดยเรื่องล่าสุดที่เพิ่งออกฉายต่อสายตาชาวโลกไปก็คือภาพยนตร์เรื่อง The Marvels เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 33 ของจักรวาลหนัง Marvel Cinematic Universe หรือ MCU อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ ภาพยนตร์ เรื่องนี้ ผ่านพ้นการฉายสัปดาห์แรกไป แต่ดูเหมือนว่า ตัวเลขยอดรายได้ หรือ Box office ที่ออกมานั้น มันช่างน่าเป็นห่วงเสียเหลือเกิน โดยรายได้ค่อยๆ ลดลง จนน่าใจหาย ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ‘The Marvels’ ทำรายได้เปิดตัวในสหรัฐฯ ไปเพียง 47 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 220 ล้านดอลลาร์ (ในอเมริกาเหนือ ส่วนทั่วโลกได้ $63 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กลายเป็นภาพยนตร์ มาร์เวล หรือ จักรวาล MCU ที่ทำรายได้เปิดตัวน้อยที่สุด แทนที่ The Incredible Hulk ในปี 2008 ที่ทำรายได้เปิดตัวไป 55.4 ล้านดออลาร์ ไปเรียบร้อยแล้ว

คำถามสำคัญ คือมันเกิดอะไรขึ้น กับหนังของมาร์เวล ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นที่นิยมมาก และกวาดรายได้อย่างถล่มทลาย อาทิ Avengers: Endgame ทำเงินมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ตลอดกาล ถึง $2,797 ล้านเหรียญสหรัฐฯ , Avengers: Infinity War ทำเงินรายได้สูงสุด อันดับ 6 ตลอดกาล $2,048 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ Spider-Man: No Way Home ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 7 ตลอดกาล 1,921 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา , ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานร่วม 15 ปี ซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลคนสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นที่รักของคนดูอย่าง ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา หรือ แบล็ควิโดว์ ฯลฯ ต่างทยอยล้มหายตายจาก ทำให้ขาดแม่เหล็กดึงดูดแฟน ๆ ได้เหมือนเดิม

ประกอบกับความซับซ้อนของจักรวาลมาร์เวล ที่ทำให้หลัง ๆ มานี้ การดูหนังมาร์เวล ซักเรื่องหนึ่งกลายเป็นความยุ่งยาก ต้องไปย้อนดูหนังเรื่องนั้น เรื่องนี้ ต้องไปหาดูซีรีส์ marvel เรื่องนี้ มาประกอบความรู้ เพื่อเป็นการทบทวนมาก่อนถึงจะเข้าใจเรื่องที่อยากจะดูแบบลึกซึ้ง ในแต่ละเรื่อง รวมทั้ง ความพยายามสร้าง จักรวาลมาร์เวล ที่ซับซ้อนมาตลอด 15 ปี ซึ่งตัวละครทุกตัว หนังและซีรีส์ทุกเรื่องต้องมีความเกี่ยวข้องกัน แม้ในช่วงแรก จะทำให้คนดูตื่นเต้น ที่ได้ติดตามว่าหนังแต่ละเรื่องมีจุดเชื่อมโยงกันที่ตรงไหน แต่ใน ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ตอนนี้ ดูเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย ในความซ้ำๆ ของพล็อตแล้ว , และไม่สนใจแล้วว่าหนังแต่ละเรื่องเกี่ยวข้องกันอย่างไร

จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล กลายมาเป็นจุดอ่อนแทนจุดแข็ง

เพราะทำให้คนดูที่ไม่ได้ติดตามชมภาพยนตร์ ‘มาร์เวล’ หรือซีรีส์ของ ‘มาร์เวล’ ครบทุกเรื่องอยู่แล้ว รู้สึกว่าตัวเองคงดูหนังเรื่องใหม่ไม่รู้เรื่อง จนเลือกที่จะไม่เสียเงินไปดูหนังเรื่องใหม่ที่โรงหนังก็เป็นได้ นี่ถือเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง หากใครหลุดแล้ว ก็ถือว่าหลุดเลย พอผ่านจุดพีคที่สุด ของจักรวาลมาร์เวล หลังจากจบ Avengers: Endgame ในปี 2019 , ความนิยมต่างๆ ในตัวจักรวาลนี้ ก็ดูจะเสื่อมคลายลงมาเรื่อยๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่แปลกเลย หากจะได้ยินเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ค่อนข้างหนาหนูว่าหนังมาร์เวลดูไม่สนุก ตื่นเต้นเหมือนเดิมอีกแล้ว ด้วยความบทที่มัน CLICHE เดาออกหมด มาตั้งหลายเรื่องแล้ว ก่อนที่หวยจะมาออกเอาที่ ‘The Marvels เดอะ มาร์เวล ที่ถูกสื่อหลายสำนักสับเละว่าเป็นหนังที่ไม่ได้รับการตอบรับ มากที่สุดในจักรวาล MCU ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วตัวหนังเองก็ไม่ได้ย่ำแย่เลวร้ายอะไรถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม , เชื่อว่า ตลอดการฉายของ The Marvels การันตีได้เลยว่า จะถึงจุดคุ้มุทนได้ ในระดับหนึ่ง อาจจะกำไรมาก หรือกำไรน้อย นั่นแต่ความล้มเหลวของ The Marvels เป็นเหมือนสัญญาณที่ปลุกดิสนีย์ ต้นสังกัดของจักรวาล MCU ให้ตื่นจากความฝันที่เกินจริงเกินไป… และเผชิญหน้ากับความจริงว่า ต่อจากนี้ไป จะไม่สามารถหากินกับความสำเร็จในอดีตได้อีกต่อไปแล้ว ไม่อาจยึดติดกับเรื่องเดิมๆ ได้อีกแล้ว

หนังมาร์เวล และ จักรวาล MCU

ต้องวางแผนภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่จะสร้างให้มีความรอบคอบมากขึ้น ว่าต้องทำหนังแบบไหน ตัวละครแบบไหน คนดูถึงจะชอบและยอมควักเงินซื้อตั๋วเข้าไปดูในโรงหนัง เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่จะทำให้คนดูตัดสินใจ เข้าไปซื้อตั๋วดูหนังในโรง แล้วบอกต่อให้คนอื่นไปดูตาม ก็คือคุ้มค่า ความบันเทิง และต้องยอมรับว่าหนังของมาร์เวลในช่วงหลังๆ สนุกน้อยลงมากๆ หากเทียบกับหนังในช่วงแรกๆ เพราะมันไม่ฉีกกรอบไปจากพล็อตเดิมๆ แต่อย่างน้อยนี่คือการส่งสัญญาณบอกว่า จักรวาลมาร์เวล หากอยากพัฒนา และ ไปต่อ มันต้องมีอะไรแปลกใหม่ให้คนดู…หรือถ้าไม่มี…บางทีมันอาจจะไปสุดทางแล้วจริงๆ

สรุปรายได้หนังมาร์เวล เรื่องไหนโกยหนัก เรื่องไหนโกยน้อย

X-Men (2000) X-เม็น 1 ศึกมนุษย์พลังเหนือโลก สร้างรายได้ 296 ล้าน บาท

อีริค แลนเชอร์เขาเป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่ควบคุมโลหะได้ทุกชนิด ซึ่งต้องการจะล้มล้างมนุษย์ และจะให้พวกมิวแทนท์ปกครองโลกแทน เขาได้ตามล่าโลแกนชายพเนจรผู้ไร้ความทรงจำผู้มีกรงเล็บอันแหลมคมและกระดูกทำจากอะดาแมนเทียม และแอนนา มารีสาวผู้ที่สามารถดูดพลังผู้อื่นได้ โลแกนและแอนนาได้หลบหนีจากเซเบอร์ทูธลูกน้องของแม็กนีโต้ระหว่างการเดินทางด้วยรถบรรทุก แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากไซคลอปส์และสตอร์ม โลแกนได้พบกับจีน เกรย์ และศาสตราจาร์ย ชาร์ล เซเวียร์ที่คฤหาสถ์ของเขาและอธิบายเรื่องต่าง เรื่องที่นำเด็กๆมนุษย์กลายพันธุ์มาฝึกสอนให้ใช้พลังต่างๆไปในทางที่ดี แต่ศาสตราจาร์ย เซเวียร์ได้เล่าว่าเขาเคยเป็นเพื่อนรักกับแม็กนีโต้มาก่อน แม็กนีโต้มีเป้าหมายที่จะต้องการจะล้มล้างมนุษย์ แต่ชาร์ลปฏิเสธเขาจึงต้องแยกทางกัน และจุดประสงคืคือชาร์ลต้องการให้โลแกนมาเข้าร่วมทีมเอ็กซ์เมน แลกกับการช่วยค้นหาความทรงจำที่สูญหายไปของเขา แต่โลแกนปฏิเสธ โร้คได้เข้าไปดูดพลังของโลแกนเพื่อต้องการพลังรักษาแผล แต่โร้ครู้ว่าตัวเองทำผิดจึงหนีไปกับบ๊อบบี้ เดรกแฟนของโร้ค แต่แม็กนีโต้ได้ตามล่าโร้คจนพบและจับตัวเขาเอาไว้ ต่อมาโลแกนจึงร่วมมือกับทีมเอ็กซ์เมนเพื่อช่วยเหลือโร้คจากแม็กนีโต้

Blade 1 (1998) เบลด 1 พันธุ์ฆ่าอมตะ    สร้างรายได้ 131 ล้าน บาท

เบลด เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ เขาถูกเผาให้ร้อนด้วยความแค้นจากคำสาปที่ติด ตัวมาตั้งแต่เกิด และต้องการปกป้องชีวิตเผ่าพันธุ์มนุษย์จากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยเลือด เบลด เติบโตมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษ คือ มีชีวิตอมตะแบบแวมไพร์ แต่มีอายุขัยเหมือนมนุษย์ มีพละกำลังเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา และกระหายเลือดเช่นเดียวกับแวมไพร์ทั่วไป แต่มโนธรรมฝ่ายมนุษย์ทำให้เขาตั้งปณิธานที่จะเป็นผู้ไล่ล่าเหล่าร้ายแวมไพร์ที่มี ฟรอสต์ เป็นผู้นำ โดยการช่วยเหลือของ วิสต์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญในการสังหารแวมไพร์

Blade 2 (2002) เบลด 2 นักล่าพันธุ์อมตะ  สร้างรายได้ 155 ล้าน บาท

เบลด เป็นลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ที่สุมความแค้นจากคำสาปอันติดตัวแต่กำเนิด และแนวทางเดียวของการชำระแค้นนี้ก็คือการปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้พ้นเงื้อมมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ด้วยการต่อสู้นองเลือด มาครั้งนี้ภาระกิจใหม่ของเบลดถูกสถานการณ์บังคับให้ร่วมมือกับเหล่าแวมไพร์ ที่เขาเกลียด เพื่อเอาชนะอสูรพันธุ์ใหม่ที่มุ่งกำจัดทั้งมนุษย์แลtแวมไพร์ เบลด มีครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์ ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งก็เป็นแวมไพร์ เขาถือกำเนิดขึ้น ในตอนที่มารดาของเขาถูกแวมไพร์ทำร้าย แต่ต้องขอบคุณ วิสเลอร์ ที่ให้การช่วยเหลือเขาทั้งในเรื่องของเซรุ่มที่ทำไม่ให้ เบลดกลายร่างซ้ำยัง สามารถทำให้เขาเดินอยู่ได้ในตอนกลางวันแม้ในยามที่มีแสงแดด แต่หลังจากหายตัวไปของวิสเลอร์ เขาได้พบกับ สคัด ผู้ที่พัฒนาอาวุธของเบลดไปจนถึงความเป็นสุดยอด และรับรู้ถึงแผนการสงครามล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์และแวมไพร์ของปิศาจพันธุ์ใหม่ ริปเปอร์

SPIDER-MAN ACROSS THE SPIDER VERSE (2023) สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม สร้างรายได้ 821 ล้าน บาท

เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรอเมริกันในปี 2002 สร้างจากการ์ตูนของมาร์เวล เรื่อง ไอ้แมงมุม เป็นภาพยนตร์ภาคแรกในชุด ไอ้แมงมุม กำกับโดย แซม เรมี แสดงนำโดย โทบีย์ แม็กไกวร์, เคิร์สเตน ดันสต์ และ วิลเลม เดโฟ บทภาพยนตร์โดย เดวิด โคเอปป์ ภาพยนตร์เริ่มจาก ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ นักเรียนมัธยมปลายที่ถูกกัดโดยแมงมุม หลังจากนั้นได้เกิดความผิดปกติทางร่างกาย ทำให้เขามีความสามารถเหนือมนุษย์ แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือลุงเบนก็เสียชีวิตไปด้วย เขาจึงตัดสินใจที่จะเป็นยอดมนุษย์ ไอ้แมงมุม

ปีเตอร์หวังที่จะพิชิตใจ แมรี เจน วัตสัน ผู้หญิงที่เขาหลงรักมาตั้งแต่ยังเด็ก เขายังต่อกรกับวายร้าย กรีน ก็อบลิน ที่เป็นพ่อของเพื่อนรักเขา แฮร์รี ออสบอร์น หลังจากติดกับการพัฒนากว่า 25 ปีในการจะทำภาพยนตร์ ในที่สุดภาพยนตร์ก็ได้ออกฉายเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 โดยโคลัมเบียพิกเจอร์ส ภาพยนตร์ได้เสียงตอบรับด้านคำวิจารณ์ที่ดี และยังทำสถิติบ็อกซ์ออฟฟิส โดยเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกในปี 2002 ทำรายได้ 822 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ไอ้แมงมุม ถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก The Dark Knight และยังติดอันดับ 18 ของหนังที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล จากความสำเร็จทำให้มีภาคต่อ ใน ไอ้แมงมุม 2 และ ไอ้แมงมุม 3

Daredevil Born Again (2025) แดร์เดฟเวิล สร้างรายได้ 179.2 ล้าน บาท

เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อเมริกันที่ออกฉายในวันที่14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 กำกับและเขียนบทโดยมาร์ก สตีเวน จอห์นสัน นำแสดงโดยเบน แอฟเฟล็ก, เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์, ไมเคิล คลาร์ก ดันแคน, โคลิน ฟาร์เรล, Joe Pantoliano, จอน แฟฟโรว์, David Keith

Planet Hulk (2010) มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง สร้างรายได้ 245 ล้าน บาท

เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรของอเมริกา สร้างมาจากตัวละครที่ชื่อว่าฮัลค์ของสแตน ลี,แจ็ค เคอร์บี้จากมาร์เวลคอมิกส์ กำกับโดยหลี่ อัน อำนวยการสร้างอวิ อราด,แลร์รี่ เจ. ฟรังโก้,เกล แอนน์ เฮิร์ด,เจมส์ สแชมส์ อีริก บานา,เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี,แซม เอลลิออท,จอช ลูคัส,นิค โนลท์จัดจำหน่ายโดยยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส

Amazing Spider-Man 2 (2014) ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 2  สร้างรายได้ 783.8 ล้าน บาท

เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวซูเปอร์ฮีโร่ กำกับโดยแซม ไรมี เขียนบทโดย อัลวิน ซาร์เกนต์และพัฒนาโดย อัลเฟรด กัฟ, ไมลส์ มิลลาร์ และ ไมเคิล ชาบอน เป็นภาพยนตร์ภาค 2 ในภาพยนตร์ชุดไอ้แมงมุม สร้างมาจากตัวละครในการ์ตูนของมาร์เวล ไอ้แมงมุม ส่วนทีมนักแสดงยังคงกลับมาเล่นอย่าง โทบีย์ แม็กไกวร์ รับบท ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์, เคิร์สเตน ดันสต์ รับบท แมรี เจน และ เจมส์ แฟรนโก รับบท แฮร์รี ออสบอร์น เป็นภาพยนตร์หลังภาคแรก 2 ปี โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ปีเตอร์ ปาร์เกอร์ ที่ติดขัดกับชีวิตส่วนตัวและการทำหน้าที่เป็นไอ้แมงมุม

มีตัวร้ายในเรื่องนี้คือ ดร. ออตโต อ็อกตาเวียส (อัลเฟรด โมลินา) ที่กลายเป็นคนเสียสติหลังจากได้ทดลองผิดพลาดและการเสียชีวิตของภรรยา ได้ใช้หนวดเครื่องกลและตั้งฉายาว่า อ็อกตาเวียส ทำให้ผู้คนในนครนิวยอร์กต่างหวาดผวาต่ออันตรายที่เขาทำ ภาพยนตร์ออกฉายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2004 ในสหรัฐอเมริกา โดยโคลัมเบียพิกเจอส์ ได้รับคำวิจารณ์ด้านบวก ทำรายได้มากกว่า 783 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลกและยังได้รับรางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม หลังจากนั้นได้สร้างภาคต่อ ไอ้แมงมุม 3 ในเวลาต่อมา

Blade 3 Trinity (2004) เบลด อำมหิตพันธุ์อมตะ สร้างรายได้ 128 ล้าน บาท

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งสองภาค เหล่าแวมไพร์ไม่เคยเอาชนะนักล่าอย่าง เบลด เจ้าของฉายา The Daywalker ได้เลยสักครั้ง กับดักสุดท้ายที่เบลดต้องเผชิญก็คือ เดร็ค ราชันย์แห่งแวมไพร์ ที่ถูกพัฒนาจนถึงขั้นสุดยอดจนยากที่จะต้านทาน ผู้กุมโครงสร้างหลักของโลกมนุษย์ แผนของเดร็คคือ การปล่อยข่าวสร้างให้เบลดกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีฆ่าต่อเนื่องอันสยดสยอง!! และเป็นโชคร้ายของเบลด เมื่อทุกคนหลงเชื่อ!! ทั้งเหล่ามนุษย์และแวมไพร์ ต่างระดมกำลังเพื่อตามจับเขา จึงถึงคราวที่เบลดต้องยอมรับความช่วยเหลือจาก The Nightstalkers ทีมมนุษย์ล่าแวมไพร์ที่เขาเคยดูถูกอย่าง แฮนนิบาล คิง และ อะบิเกล วิสเลอร์ ลูกสาวของ ดร.วิสเลอร์ ผู้มีพระคุณของเขานั่นเอง…

Fantastic Four (2005) สี่พลังคนกายสิทธิ์ สร้างรายได้ 330 ล้าน บาท

สี่พลังคนกายสิทธิ์ เมื่อรวมตัวกัน พวกเขาเปลี่ยนโศกนาฏกรรมให้กลายมาเป็นชัยชนะและเปลี่ยนความหายนะให้กลายเป็นการร่วมแรงร่วมใจโดยใช้พลังที่เป็นเอกลักษณ์และแกร่งเหนือใครของพวกเขาในการป้องกันแผนชั่วของ ดร. ดูม (Dr.Doom)ซึ่งบัดนี้กลายเป็นคนนัยน์ตาและหมัดเหล็กและเพื่อปกป้องพลเมืองนิวยอร์คให้รอดพ้น จากการคุกคาม ใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น

X-Men 3 The Last Stand (2006) X-เม็น รวมพลังประจัญบาน สร้างรายได้ 459 ล้าน บาท

เมื่อมีการสร้าง “การรักษา” ขึ้นซึ่งเห็นได้ชัดว่าสามารถเปลี่ยนมนุษย์กลายพันธุ์ให้กลายเป็นมนุษย์ “ปกติ” ได้มีความชั่วร้ายในหมู่ชุมชนมนุษย์กลายพันธุ์ ในขณะที่มนุษย์กลายพันธุ์บางคนชอบความคิดของ “การรักษา” รวมถึงการโกง แต่มนุษย์กลายพันธุ์หลายคนพบว่าไม่ควรมี “การรักษา” แม๊กที่ยังคงเชื่อว่าสงครามกำลังจะมาถึงได้เกณฑ์ทีมมนุษย์กลายพันธุ์จำนวนมากเพื่อจัดการวอร์เรนเวิร์ ธ ธิงตันที่ 2 และ “การรักษา” ของเขา อาจดูเหมือนง่ายสำหรับ X-Men ที่จะหยุด แต่ Magneto มีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ซึ่ง Wolverine ไม่มี Jean Grey กลับมาแล้วและเข้าร่วมกับ Magneto Dark Phoenix ได้ตื่นขึ้นภายในตัวเธอซึ่งมีความสามารถในการทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางเธอแม้ว่า “อะไร” นั้นจะเป็น X-Man ก็ตาม

รายชื่อภาพยนตร์ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล

• Iron Man (2008)
• The Incredible Hulk (2008)
• Iron Man 2 (2010)
• Thor (2011)
• Captain America: The First Avenger (2011)
• The Avengers (2012)
• Iron Man 3 (2013)
• Thor: The Dark World (2013)
• Captain America: The Winter Soldier (2014)
• Guardians of the Galaxy (2014)
• Avengers: Age of Ultron (2015)
• Ant-Man (2015)
• Captain America: Civil War (2016)
• Doctor Strange (2016)
• Guardians of the Galaxy Vol. 2 (2017)
• Spider-Man: Homecoming (2017)
• Thor: Ragnarok (2017)
• Black Panther (2018)
• Avengers: Infinity War (2018)
• Ant-Man and the Wasp (2018)
• Captain Marvel (2019)
• Avengers: Endgame (2019)
• Spider-Man: Far from Home (2019)
• Black Widow (2021)
• Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2021)
• Eternals (2021)
• Spider-Man: No Way Home (2021)
• Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022)
• Thor: Love and Thunder (2022)
• Black Panther: Wakanda Forever (2022)
• Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023)
• Guardians of the Galaxy Vol. 3 (2023)
• The Marvels (2023)
• Deadpool & Wolverine (2024)
• Captain America: Brave New World (2025)

Marvel Cinematic Universe หรือที่รู้จักกันในภายหลัง ได้เติบโตจนกลายเป็นแฟรนไชส์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ในปี 2015 ข้อตกลงระหว่างDisneyซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Marvel และSonyได้นำSpider-Man (ซึ่งก่อนหน้านี้ปรากฏตัวเฉพาะในภาพยนตร์ที่ Sony เป็นผู้ผลิต) เข้าสู่จักรวาลร่วมกัน และตัวละครดังกล่าวจะพร้อมให้ทั้งสองสตูดิโอใช้งานในเวลาต่อมา Marvel Studios ซึ่งเป็นแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ของบริษัท ยังคงสร้างสถิติด้วยเรือธงอย่างAvengersแต่ยังนำฮีโร่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เช่นGuardians of the Galaxy (2014), Ant-Man (2015) และDoctor Strange (2016) นอกจากนี้Black Panther (2018) ยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ Marvel ที่ได้รับรางวัลAcademy Award โดยได้รับรางวัลออสการ์สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกาย ดนตรีประกอบ และการออกแบบงานสร้าง ภายในปี 2023 มีภาพยนตร์มากกว่า 30 เรื่องเข้าฉายภายใต้ชื่อ Marvel Cinematic Universe และรายรับจากบ็อกซ์ออฟฟิศ ทั่ว โลก ของแฟรนไชส์นี้ใกล้เคียง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ซูเปอร์ฮีโร่ฮีโร่ ใน จินตนาการที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหนังสือการ์ตูนและหนังสือการ์ตูนทางโทรทัศน์และภาพยนตร์รวมถึงวัฒนธรรม ยอดนิยม และวิดีโอเกมซึ่งมีพลังพิเศษหรือ “เหนือมนุษย์” มักจะปรากฏในการต่อสู้กับอาชญากรและผู้ร้ายต่างๆ ซึ่งมักจะแสดงความสามารถเหนือมนุษย์ด้วยเช่นกัน ในหลายๆ ด้าน ซูเปอร์ฮีโร่เปรียบเสมือนเทพเจ้าในตำนานคลาสสิกและตำนานอื่นๆ โดยบางองค์ เช่น เทพเจ้าธอร์ แห่งนอร์ส มีบทบาทในหนังสือการ์ตูนสมัยใหม่ แท้จริงแล้ว ในขณะที่ซูเปอร์ฮีโร่บางคนพึ่งพาเทคโนโลยีขั้นสูงและความรู้เพื่อเอาชนะศัตรู ซูเปอร์ฮีโร่บางคนกลับมีพลังที่แทบจะเรียกว่าเทพ ตั้งแต่ความสามารถในการบินไปจนถึงความเป็นอมตะ

ฮีโร่ในชุดคอสตูม ปรากฏตัวในภาพยนตร์มาตั้งแต่ยุคทองของฮอลลีวูด โดยมีผู้ปราบอาชญากรอย่างShadow , PhantomและCaptain Marvelแสดงนำในซีรีส์และภาพยนตร์บีในศตวรรษที่ 21 Marvelได้เปิดตัวภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางการค้าหลายเรื่องซึ่งแตกต่างจากความพยายามก่อนหน้านี้ในการแปลการ์ตูนสู่จอภาพยนตร์โดยฉากอยู่ในโลกเดียวกัน แผนการอันทะเยอทะยานนั้นสร้างผลตอบแทนมหาศาลด้วยThe Avengers (2012) ภาพยนตร์ที่มีIron Man , ThorและCaptain Americaซึ่งเป็นฮีโร่สามคนที่ได้รับความสำเร็จจากภาพยนตร์ทำเงินจำนวนมาก และทำรายได้มากกว่า 1.5 พันล้านเหรียญทั่วโลก

ซูเปอร์แมน เป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรกที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง โดยปรากฏตัวในAction Comics #1 ในเดือนมิถุนายน 1938 และเขาเป็นต้นแบบของซูเปอร์ฮีโร่ในชุดคอสตูมมากมายที่ตามมา ซูเปอร์ฮีโร่และหนังสือการ์ตูน เช่นเดียวกับสื่อวิทยุภาพยนตร์ และโทรทัศน์ที่ส่งผลต่อประวัติศาสตร์ของพวกเขา ได้รับการพัฒนาส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาผ่านวัฒนธรรมสมัยนิยมของอเมริกา จากนั้นจึงแพร่กระจายไปทั่วโลก และประวัติศาสตร์ของความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการค้าของพวกเขาได้รับการกำหนดโดย “ยุค” หลายยุค: ยุคทอง (1938–54) ยุคเงิน (1956–69) ยุค สำริด (1970–80) ยุคสำริดตอนปลาย (1980–84) และยุคใหม่ (1985–ปัจจุบัน) ยุคต่างๆ เหล่านี้ทำหน้าที่แสดงให้เห็นว่าการ์ตูนและซูเปอร์ฮีโร่เป็นผลงานสร้างสรรค์ของยุคสมัยนั้นๆ ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เหล่าผู้รักชาติ ผู้กล้าหาญและการแบ่งแยก ทางชาติพันธุ์ (โดยเฉพาะตัวละครชาวเอเชีย) เป็นเรื่องปกติในสมัยนั้น ในขณะที่ซูเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบัน ซึ่งเหมาะสมกับความไม่แน่นอนของยุคนั้น กลับเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเองและความวิตกกังวลในการดำรงอยู่มีความหลากหลาย ทางชาติพันธุ์ และหมกมุ่นอยู่กับปัญหาต่างๆ เช่นการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสงครามนิวเคลียร์

DC Comics แนะนำซูเปอร์ฮีโร่ในชุดคอสตูมคนแรกซูเปอร์แมนในAction Comicsฉบับที่ 1 (มิถุนายน 1938) ผู้สร้างซูเปอร์แมน นักเขียนเจอร์รี่ ซีเกลและศิลปินโจ ชูสเตอร์พยายามขายซีรีส์นี้ให้กับกลุ่มสื่อหนังสือพิมพ์ในรูปแบบการ์ตูนรายวัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้น DC ก็เสี่ยงครั้งใหญ่ในปี 1938 ด้วยการตีพิมพ์ตัวละครที่ยังไม่เคยทดลองมาก่อน แต่Action #1 กลับขายได้เกินความคาดหมายทั้งหมด ซูเปอร์แมนเป็นตัวแทนของซูเปอร์ฮีโร่ได้อย่างสมบูรณ์แบบตามคำจำกัดความในปัจจุบัน: ตัวละครฮีโร่ที่มีภารกิจเพื่อประโยชน์ผู้อื่น มีพลังพิเศษ สวมชุดที่เป็นเอกลักษณ์ และทำหน้าที่ใน “โลกแห่งความจริง” ในตัวตนอีกด้าน ของเขาหรือเธอ ในไม่ช้า ซูเปอร์แมนจะมีผู้สืบทอดอีกมากมาย

[/read]